ทรัมป์ลุยคริปโตเต็มตัว เตรียมเปิดตัวเกม NFT สร้างเมืองดิจิทัลเมษายนนี้

ทรัมป์เดินหน้าสู่โลกคริปโตเต็มตัว เตรียมเปิดตัวเกมใหม่ปลายเมษายนนี้ โดยเป็นโครงการที่ผสมผสานระหว่างเกมและทรัพย์สินดิจิทัล มุ่งเป้ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ พร้อมขยายอิทธิพลในโลกเมตาเวิร์สและบล็อกเชน

เกมดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจากเกมมือถือยอดนิยมอย่าง ‘Monopoly Go!’ โดยผู้เล่นจะได้สร้างเมืองดิจิทัลพร้อมสร้างรายได้ มีรายงานว่า บิล แซงเกอร์(Bill Zanker) พาร์ทเนอร์ธุรกิจของทรัมป์ที่มีบทบาทในโปรเจกต์มีมคอยน์ TRUMP และ NFT คอลเลกชันหลายรายการได้ร่วมออกแบบด้วย โดยฝั่งของแซงเกอร์ยอมรับว่ากำลังพัฒนาเกมอยู่จริง แม้ปฏิเสธว่าไม่ได้ลอกเลียนรูปแบบมาจากเกม Monopoly ก็ตาม

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งทางกฎหมายกับบริษัทเจ้าของ Monopoly อย่างแฮซโบร(Hasbro) ที่ถือลิขสิทธิ์เกมอย่างเป็นทางการ รายงานระบุว่า ในเดือนพฤษภาคม 2024 แซงเกอร์เคยพยายามเจรจาขอใช้ลิขสิทธิ์เกม Monopoly ที่มีตราแบรนด์ทรัมป์จากแฮซโบร แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าตกลงกันสำเร็จหรือไม่

การเดินหน้าครั้งนี้ถือเป็นการกลับลำจากจุดยืนในอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยในปี 2021 ทรัมป์เคยวิจารณ์ว่า *บิตคอยน์(BTC)* เป็น “การหลอกลวงต่อดอลลาร์” แต่เมื่อเข้าสู่แคมเปญเลือกตั้งใหม่ เขาเริ่มเปิดรับ Web3 มากขึ้น กระทั่งในปี 2024 ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้งทุนสำรองบิตคอยน์อย่างเป็นทางการ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่พุ่งเป้าไปยังฐานผู้สนับสนุนในวงการคริปโต

โปรเจกต์คริปโตหลักของทรัมป์ในขณะนี้ ได้แก่ มีมคอยน์ TRUMP ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.19 แสนล้านวอน), คอลเลกชัน NFT และแพลตฟอร์มการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง ‘World Liberty Financial’ นอกจากนี้ยังได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรจำนวนมากในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ครอบคลุมเมตาเวิร์สและ NFT มาร์เก็ตเพลส รวมถึงการขนส่งเสมือนจริง ห้างสรรพสินค้า และบริการสาธารณะในโลกดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเกม NFT ใหม่นี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากตลาดได้มากแค่ไหน โดยข้อมูลจาก DappRadar ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปี 2025 ผู้ใช้งานเกม Web3 ลดลง 6% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการลงทุนลดลงถึง 71% เหลือเพียง 91 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.33 แสนล้านวอน) มูลค่าที่ผันผวนสะท้อนถึงแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

ด้านหนึ่งก็มีเสียงวิจารณ์ว่า ความเคลื่อนไหวในวงการคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์อาจเปิดช่องให้เกิดข้อสงสัยเรื่อง ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องนี้เชื่อมโยงกับแคมเปญเลือกตั้ง หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ใช่การส่งเสริมอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง แต่เป็นหมากสำคัญทางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงแสดงท่าทีมุ่งมั่นต่อคริปโตและเทคโนโลยีในฐานะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการชิงความเป็นผู้นำด้านนี้ในสหรัฐอเมริกา