Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ทรัมป์คลายกฎคริปโต! สหรัฐเริ่มถอนฟ้อง-เปิดทางธนาคารรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

Wed, 09 Apr 2025, 21:19 pm UTC

ทรัมป์คลายกฎคริปโต! สหรัฐเริ่มถอนฟ้อง-เปิดทางธนาคารรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล / Tokenpost

ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปรับนโยบายคริปโตของสหรัฐอย่างจริงจัง ด้วยมาตรการต่อเนื่องที่ส่งสัญญาณ ‘ผ่อนคลายกฎระเบียบ’ ในภาคสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการยกเลิกข้อกำหนดด้านการเงินหลายประการ รวมทั้งการถอนฟ้องคดีสำคัญที่เกิดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ซึ่งถูกมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบของอุตสาหกรรม

หนึ่งในคำสั่งแรกที่ทรัมป์ดำเนินการหลังรับตำแหน่ง คือการยกเลิกแนวทางด้านบัญชีของ SEC ที่เคยเพิ่มภาระกับธนาคารในการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้นหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินอย่างสำนักงานควบคุมสกุลเงิน(OCC) ได้ยกเลิกข้อกำหนดที่บังคับให้ธนาคารต้องได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะในการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (custody) หรือการจัดการทุนสำรองของสเตเบิลคอยน์ ด้านบรรษัทค้ำประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ(FDIC) ก็ได้ล้มเลิกนโยบายการรายงานความเสี่ยงจากคริปโตที่มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไบเดน

ทราวิส ฮิล รักษาการผู้อำนวยการ FDIC ระบุว่า “แค่ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง (Reputational Risk) ไม่ควรเป็นเหตุผลให้สถาบันการเงินละเว้นจากการเข้าสู่ภาคดิจิทัล” แสดงจุดยืนชัดเจนต่อทิศทางใหม่ของนโยบาย ⁠แม้หลายฝ่ายมองว่าความเร็วของกระบวนการอาจยังไม่มาก แต่ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สะท้อนถึง ‘จุดเริ่มต้นของการคลี่คลายกรอบกฎหมายคริปโตในสหรัฐ’

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือท่าทีใหม่ของ SEC โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ คดีความกับบริษัทจำนวนมากอาทิ ริปเปิล(XRP), คอยน์เบส(COIN), และคราเคน ก็สิ้นสุดลงโดยไม่มีคำตัดสินความผิดทางกฎหมาย บางคดีมีการลดหรือยกเลิกค่าปรับ ซึ่่งกลายเป็น ‘สัญญาณบวก’ แก่ภาคธุรกิจคริปโต ผู้เชี่ยวชาญมองว่าสิ่งนี้อาจสะท้อนว่า SEC เริ่มไม่มองกิจกรรมคริปโตส่วนใหญ่เป็นการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์อีกต่อไป ⁠

ในช่วงต้นของการบริหาร รัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการเลื่อนหรือถอนฟ้องคดีกับกิจกรรมอย่างการออกเหรียญใหม่(staking), การสเตก และการขุด(mining) สกุลเงินดิจิทัล แม้จะยังมีการสืบสวนต่อเนื่องกับโครงการใหญ่บางส่วน เช่น บล็อกเชนทรอน และไบแนนซ์ แต่โดยรวมแล้วท่าทีของ SEC ในปัจจุบันถือว่าผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุด SEC ยังออกแถลงว่าสินทรัพย์บางประเภท เช่น ‘มีมคอยน์’, ‘การขุดแบบ Proof-of-Work’, หรือ ‘สเตเบิลคอยน์ที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐ’ ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับตามกฎหมายหลักทรัพย์

เมื่อรวมกับท่าทีของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ(DOJ) ที่ได้ประกาศยุบทีมสืบสวนอาชญากรรมที่มีความเชี่ยวชาญในคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ยิ่งตอกย้ำแนวทางใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ที่มุ่ง ‘คลายล็อกกฎเกณฑ์’ ในอุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง

ยิ่งไปกว่านั้น การคาดการณ์ว่าพอล แอตกินส์(Paul Atkins) กำลังจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน SEC ก็ยิ่งสนับสนุนแนวโน้มการปฏิรูปเชิงลึก แอตกินส์ขึ้นชื่อในความเชื่อมั่นต่อกลไกตลาดเสรีมาโดยตลอด จึงเป็นที่คาดหวังว่าหลังเข้ารับตำแหน่ง อาจมีการ ‘ร่างนโยบายคริปโตฉบับใหม่’ ที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ

แม้จะมีบางฝ่ายวิจารณ์ว่ามาตรการเหล่านี้เป็นเพียงแค่ ‘กลยุทธ์ทางการเมืองระยะสั้น’ แต่ในมุมมองของอุตสาหกรรม กลับมองว่านี่อาจเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนการกำหนดกรอบกำกับดูแลรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การล้มเลิกนโยบาย ‘Operation Chokepoint 2.0’ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นการสกัดภาคคริปโตเหตุผลทางการเงิน ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลที่ ‘เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัล’

ขณะนี้ตลาดกำลังจับตามองว่า นโยบาย ‘คลายล็อกกฎหมาย’ เหล่านี้จะส่งผลอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลกความจริง หากสถาบันการเงินและบริษัทคริปโตสามารถ ‘ทำงานร่วมกัน’ อย่างเปิดเผยได้อีกครั้ง การตัดสินใจของทรัมป์อาจไม่ใช่แค่การปฏิรูปกฎหมายชั่วคราว แต่เป็น ‘แรงผลักระยะยาว’ ที่ช่วยหนุนอนาคตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอย่างแท้จริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1