เอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ออกโรงวิจารณ์ทรัมป์อย่างตรงไปตรงมา โดยกล่าวหาว่าเขา ‘อาจมีส่วนในการปั่นตลาด’ ผ่านนโยบายภาษีที่ไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งตลาดการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) วอร์เรนได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียตั้งข้อสงสัยว่า ทรัมป์อาจเปลี่ยนนโยบายภาษีเพราะแรงกดดันจากวอลล์สตรีท พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างอิสระ โดยเฉพาะการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างกะทันหันจาก 105% เป็น 125% ขณะเดียวกัน กลับให้บางประเทศได้รับการยกเว้นภาษีชั่วคราวถึง 90 วัน ซึ่งวอร์เรนชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงแบบนี้อาจถูกใช้เพื่อให้เกิดความผันผวนในตลาดมูลค่าต่ำ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการ ‘ซื้อเก็บตอนราคาตก’
ราคาบิตคอยน์(BTC)และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เริ่มฟื้นตัวทันทีหลังมีข่าวภาษีหยุดชั่วคราว แต่ก็เข้าสู่ช่วงแรงเทขายอีกครั้งจากความไม่แน่นอน วอร์เรนมองว่านี่เป็น ‘ยุทธศาสตร์เชิงเก็งกำไร’ ที่ชัดเจน และเน้นว่าแนวทางของทรัมป์ทำลายความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
เสียงวิจารณ์จากรัฐสภาก็ทวีความรุนแรงขึ้น โดย สตีเวน ฮอสฟอร์ด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวในที่ประชุมสภาว่า “หากนี่ไม่ใช่การปั่นตลาด แล้วจะเรียกว่าอะไร” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการภาษีของทรัมป์ดูเหมือนจะให้ประโยชน์กับกลุ่มมหาเศรษฐีบางกลุ่ม
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่าง จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ทรัมป์ใช้ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญากับจีนเป็นข้ออ้างในการแทรกแซงพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ ส่งผลให้ตลาดและโลกการค้าสั่นคลอน เขายังเตือนว่าการเน้นกลยุทธ์ระยะสั้นเช่นนี้จะบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ
เศรษฐกิจอเมริกาขณะนี้เผชิญแรงกดดันจากภาคการผลิตที่ชะลอตัวและแนวโน้มลดการจ้างงาน วอร์เรนเตือนว่า ‘การเล่นเกมภาษี’ ท่ามกลางสถานการณ์เปราะบางเช่นนี้ จะผลักดันให้เศรษฐกิจเข้าสู่วิกฤต และเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายรีพับลิกันแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ
การปะทะกันระหว่างวอร์เรนและทรัมป์ในประเด็นนี้ส่งแรงกระเพื่อมต่อเนื่องทั้งในวอชิงตันและตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดคริปโตที่มักผันผวนตามท่าทีทางการเมือง ความเคลื่อนไหวของรัฐสภาและการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0