ราคาของบิตคอยน์(BTC) พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ โดยเพิ่มขึ้นถึง *9%* และเมื่อวันที่ 22 ก็สามารถทะลุระดับ *91,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.32 ล้านบาท) ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวอย่างจำกัด และยังแสดงรูปแบบคล้ายกับราคาทองคำที่เคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์ (ราว 511,000 บาท) ในช่วงสั้น ๆ
แม้การดีดตัวของราคาเพียงอย่างเดียวจะน่าจับตามอง แต่ *สัญญาณที่แท้จริงของตลาด* กลับแสดงออกผ่านตลาดอนุพันธ์ โดยข้อมูลจาก CoinGlass แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดคริปโต ระบุว่า มูลค่าสัญญาฟิวเจอร์สบิตคอยน์ที่ยังไม่ถูกชำระ (Open Interest) พุ่งขึ้นถึง *17%* สู่ระดับ *6.83 พันล้านดอลลาร์* (ประมาณ 99,918 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือน แสดงให้เห็นถึงการกลับมาของกระแส *การเข้าซื้อที่แข็งแกร่งทั่วทั้งตลาด*
ปัจจุบัน ตลาดบิตคอยน์อยู่ในสถานะที่เรียกว่า *คอนแทงโก้ (Contango)* หรือภาวะที่ราคาของสัญญาฟิวเจอร์สสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นว่าราคาจะสูงขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาฟิวเจอร์สบิตคอยน์ในตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME) ที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป แสดงให้เห็นว่า *นักลงทุนสถาบัน* อาจกำลังใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงหรือเลเวอเรจ
คำถามสำคัญจึงกลายเป็น "ใคร" อยู่เบื้องหลังการไล่เก็บบิตคอยน์ในรอบนี้ และ "ทำไม" ถึงเกิดกระแสเข้าซื้ออีกครั้ง
ดัชนี Coinbase Bitcoin Premium ของ CoinGlass จึงเป็นกุญแจในการแยกแยะตัวตนของผู้ซื้อ โดยเปรียบเทียบราคาบิตคอยน์แบบ BTC/USD จาก Coinbase Pro—which เน้นลูกค้าสถาบันในสหรัฐ—กับราคาจาก Binance ซึ่งมีนักลงทุนรายย่อยทั่วโลกเป็นหลัก ในช่วงต้นเดือนเมษายน ฝั่งรายย่อยดูจะเคลื่อนไหวเด่นกว่า แต่ระหว่างวันที่ 21-22 เมษายน ดัชนีนี้กลับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ *0.16%* ซึ่งบ่งชี้ถึงกระแสการไหลเข้าของ *เงินทุนสถาบันอีกครั้ง*
ความเคลื่อนไหวนี้อาจสัมพันธ์กับความเรียงตัวของสัญญาณจากทั้งราคาทองคำที่แข็งแกร่งและบิตคอยน์ที่กำลังกลับมาเป็น *ทางเลือกการลงทุนที่มีแรงหนุนชัดเจน* ในขณะเดียวกัน สัญญาณจากแพลตฟอร์มซื้อขายและตลาดอนุพันธ์ก็ยืนยันว่าความต้องการจากสถาบันกำลังฟื้นตัว ซึ่งช่วยกระตุ้นความคาดหวังว่า *ตลาดคริปโตอาจยังมีพื้นที่ให้เติบโตต่อไป* ในระยะถัดจากนี้
ความคิดเห็น 0