ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศอย่างน้อย 10% โดยเหตุดังกล่าวทำให้ *บิตคอยน์(BTC)* แกว่งตัวระหว่าง 82,000–84,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนจะร่วงลงอย่างรวดเร็วในคืนวันอาทิตย์ และดิ่งสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 74,000 ดอลลาร์ในวันจันทร์
จากนั้นในวันพุธ เมื่อทรัมป์เตือนว่าหากจีนไม่ยกเลิกการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ เขาอาจปรับขึ้นภาษีถึง 104% ทำให้ราคาบิตคอยน์ทรุดลงอีกครั้งมาอยู่ที่ช่วง 74,000 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดกลับขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ 83,000 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า สหรัฐฯ จะระงับการเก็บภาษีกับประเทศอื่น ยกเว้นจีนที่อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นเป็น 125%
*อีเธอเรียม(ETH)* เองก็ไม่ต่างกัน โดยราคาลดลงถึง 1,400 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งถือว่าลบกำไรสะสมในรอบ 7 ปีไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าตอนนี้จะฟื้นกลับมาที่ 1,570 ดอลลาร์ แต่ก็ยังลดลง 13% เทียบกับสัปดาห์ก่อน
สกุลเงินดิจิทัลหลักอื่นอย่าง *ริปเปิล(XRP)*, *ดอจคอยน์(DOGE)*, *โทนคอยน์(TON)*, *คาร์ดาโน(ADA)* และ *สเตลลาร์(XLM)* ต่างก็ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางเหรียญที่สวนทางตลาด ได้แก่ *พายคอยน์(PI)*, *OKB* และ *ไฮป์(HYPE)* ที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 118 พันล้านดอลลาร์ และ *บิตคอยน์* ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 60.6% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสกุลเงินหลักในท่ามกลางความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0