บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะจุดต่ำสุดของปี 2025 ท่ามกลางความผันผวนในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจใช้ต่อจีน เมื่อวันที่ 8 ตลาดโลกเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ซึ่งระบุว่าอาจจะ *ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน* อย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกรับมือด้วยการลดความเสี่ยง ส่งผลโดยตรงต่อ *ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* ที่ราคาปรับลดลง แม้จะมีจังหวะฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความเชื่อมั่นในการกลับขึ้นของราคายังอยู่ในระดับต่ำ
ในตลาดออปชันของบิตคอยน์ ณ วันที่ 8 เมษายน ความกังวลด้านขาลงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการเปิดสถานะ *พุตออปชัน* บริเวณระดับ 70,000 ดอลลาร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงลบของนักลงทุน ขณะเดียวกัน ปริมาณสัญญาเปิดในตลาดฟิวเจอร์สของบิตคอยน์ในตลาดชิคาโก (CME) กำลังลดลง สะท้อนว่า *นักลงทุนสถาบัน* กำลังลดการเปิดรับความเสี่ยงในสินทรัพย์คริปโต
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างบิตคอยน์กับดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐอย่าง S&P500 และ Nasdaq100 ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยมีสหสัมพันธ์บวกอยู่ที่ระดับ 0.84 จึงทำให้ตลาดคริปโตยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม *สินทรัพย์เสี่ยง* ที่ได้รับผลกระทบทางตรงจากความผันผวนของตลาดทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ดัชนีความผันผวน VIX พุ่งเกิน 46% ซึ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะ *ความกังวลสูงสุดของนักลงทุน*
อีกหนึ่งแรงกดดันต่อราคาบิตคอยน์คือสถานะทางการเงินของบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ในสหรัฐอย่าง ‘สตราเทจี’ ซึ่งเดิมคือไมโครสแตรเทจี บริษัทได้รายงานว่าบันทึก *ขาดทุนทางบัญชีจากการถือครองบิตคอยน์* มูลค่า 5.91 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 8.8 แสนล้านบาทในไตรมาสแรกของปี ความเสี่ยงในลักษณะนี้อาจสร้างผลกระทบร้ายแรง โดยเฉพาะต่อบริษัทที่มีฐานทุนไม่แข็งแรง มีความเสี่ยงต่อ *การเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์*
สิ่งที่ตลาดกำลังจับตามองต่อจากนี้ คือท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) โดยในวันที่ 10 เมษายน จะมีการเปิดเผยรายงานประชุม FOMC รวมถึงในวันเดียวกันนั้น ข้อมูล *ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)* และในวันที่ 11 ข้อมูล *ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค* ของสหรัฐจะถูกเผยแพร่ หากนโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์กระตุ้นเงินเฟ้อ อาจทำให้แนวโน้ม *การปรับลดอัตราดอกเบี้ย* ภายในปีนี้ยิ่งริบหรี่ลง
แม้นโยบายของทรัมป์จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาดคริปโต แต่ก็ส่งผลกระทบในเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะผ่านช่องทางการเงินและการลงทุน เมื่อเชื่อมโยงกันแบบ *“นโยบายการค้าก้าวร้าว → เงินเฟ้อพุ่ง → ดอกเบี้ยลงช้า → ตลาดการเงินปรับฐาน”* จะเห็นได้ว่า บิตคอยน์ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ อาจเผชิญ *แรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่อง* ตลอดช่วงที่จะถึงนี้
สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนว่าตลาดกำลังประเมินความเสี่ยงทั้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของทรัมป์เต็มที่ แต่ยังไม่มีแนวทางรับมือที่ชัดเจน โดยในระยะสั้น หากปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลาย หรือหากข้อมูลเงินเฟ้อลดความร้อนแรงลง ก็มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมแล้ว ตลาดยังคงต้องการ *การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ* และความระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างสูง
ความคิดเห็น 0