อีเธอเรียม(ETH) ยังซบเซา แต่นักวิเคราะห์ชี้เป็นจุดสะสมคล้ายกรณีของริปเปิล(XRP)

อีเธอเรียม(ETH) ยังคงประสบกับภาวะซบเซาต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมูลค่าหล่นลงอย่างรุนแรงและไม่สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายกลับมองว่านี่อาจเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ที่ชี้ถึงโอกาสความเคลื่อนไหวลักษณะเดียวกับ ริปเปิล(XRP) ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีเธอเรียมเคยพุ่งจาก 2,400 ดอลลาร์ไปแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ได้ แต่แรงซื้อกลับไม่สามารถรักษาโมเมนตัมไว้ได้ ส่งผลให้ราคาทรุดลงหนักในไตรมาสแรกของปี 2025 และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ได้ร่วงแตะ 1,400 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการคืนกำไรที่สะสมมานานกว่า 7 ปี ปัจจุบัน อีเธอเรียมดีดกลับมาอยู่ที่ราว 1,800 ดอลลาร์แต่ก็ยังต่ำกว่าราคาก่อนช่วงเลือกตั้ง และห่างจากจุดที่มีการเปิดซื้อขาย ETF ไปแล้วราว 2,000 ดอลลาร์

ปัจจัยลบหลายอย่างเป็นส่วนหนึ่งของการอ่อนตัวในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขายทำกำไรจากวาฬคริปโต, การที่บริษัทกาแล็กซี ดิจิทัลหันไปลงทุนในโซลานา(SOL) แทน รวมถึงการไหลออกของเงินจากกองทุน ETF อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า บรรยากาศด้านลบเช่นนี้อาจเป็น ‘จังหวะในการเข้าสะสมระยะยาว’

CryptoBusy แสดงความเห็นว่า "อีเธอเรียมตอนนี้อยู่ในสถานการณ์คล้ายกับริปเปิลช่วงก่อนหน้านี้ที่ตลาดมองว่าไร้อนาคต แต่สุดท้ายความต้องการจากสถาบันก็กลับมาหนาแน่นในไม่ช้า"

ตัวอย่างของริปเปิลแสดงให้เห็นว่า กระแสกลับสามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยในช่วงปลายปี 2024 จนถึงต้นปี 2025 ราคาของ XRP กระโดดจาก 0.6 ดอลลาร์ไปสูงสุดที่ 3.4 ดอลลาร์ แม้จะยังไม่สามารถทุบสถิติสูงสุดเดิมในปี 2018 ได้ แต่ก็เข้าใกล้พอสมควร แถมยังยืนราคาเหนือระดับ 2 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาด ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ XRP ลดช่องว่างจากอีเธอเรียมลงอย่างชัดเจน

Wess นักวิเคราะห์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 รายทาง X (เดิมชื่อ Twitter) เผยว่า การไหลเข้าของ ETH นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ตลาดกลับยังไม่สะท้อนแรงซื้อดังกล่าว ในวันที่ 22 เมษายน จำนวนเหรียญที่ไหลเข้า ‘ที่อยู่สะสม’ กลายเป็นตัวเลขสูงสุดตลอดกาล ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ‘กลุ่มผู้เล่นรายใหญ่’ กำลังเข้าซื้อหนักที่บริเวณราคาราว 1,750 ดอลลาร์

อีกหนึ่งสัญญาณที่น่าสนใจคือกิจกรรมบนเครือข่ายที่เริ่มฟื้นตัว โดยจำนวนผู้ใช้งานที่อยู่ ‘แอคทีฟ’ เพิ่มขึ้น 10% ภายในสองวัน แม้ในขณะเดียวกันปริมาณการซื้อขายใน DEX ยังคงทรงตัว และการใช้งานในระบบ DeFi ก็ยังซบเซาอยู่ อย่างไรก็ดี การสะสมของ ETH ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอาจบ่งชี้ถึง "การเตรียมพร้อมของวาฬคริปโตสำหรับรอบขาขึ้น" หรือไม่ก็เป็นสัญญาณเตือนก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วงขาลงที่ลึกขึ้น Wess กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องจับตาให้ดีว่าแนวโน้มข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

*คำสำคัญ: อีเธอเรียม(ETH), XRP, วาฬคริปโต, ETF, ราคาคริปโต, Ripple, CryptoBusy*