แพลตฟอร์มซื้อขายออปชันคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดอริบิท(Deribit) กำลังพิจารณาการขยายตลาดเข้าสู่สหรัฐอย่างจริงจัง โดยมีสัญญาณสนับสนุนจาก ‘ทรัมป์’ ที่แสดงท่าทีเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน
ลุค สตรีจีส์(Luuk Strijers) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเดอริบิท เปิดเผยกับ Financial Times เมื่อเร็วๆ นี้ว่า บริษัทกำลัง ‘กลับมาพิจารณาอย่างจริงจัง’ ในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐอีกครั้ง หลังจากปีก่อนทำสถิติการซื้อขายแตะ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,846 ล้านล้านวอน) ท่ามกลางแนวโน้มผ่อนคลายกฎระเบียบของรัฐบาลทรัมป์
แนวทางของฝ่ายบริหารภายใต้ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากยุครัฐบาลไบเดน โดยมีการระงับหรือล้มเลิกคดีความที่เกี่ยวข้องกับคริปโตหลายกรณีโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ขณะที่กระทรวงยุติธรรมก็มีการยุบหน่วยงานตรวจสอบอาชญากรรมคริปโต ซึ่งสะท้อนนโยบาย ‘ลดแรงกดดัน’ อย่างชัดเจน
บรรดาบริษัทคริปโตระดับโลกต่างเดินหน้ากลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นคราเคน(Kraken) ที่เข้าซื้อกิจการนิญ่าเทรดเดอร์(NinjaTrader) มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ Coinbase ที่มีข่าวว่าได้แจ้งหน่วยงานกำกับดูแลของดูไบถึงแผนเข้าซื้อเดอริบิทแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าดีลนี้มีโอกาสเป็นจริงค่อนข้างสูง
ขณะเดียวกัน OKX ได้ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ในสหรัฐที่เมืองซานโฮเซ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วน Nexo ที่เคยถอนตัวจากตลาดสหรัฐในปี 2022 ก็เตรียมหวนคืนสู่ตลาดอีกครั้ง โดยทั้งหมดยังสอดคล้องกับคำมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยประกาศว่า "จะทำให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของคริปโตระดับโลก"
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม จัสติน ซัน ผู้ก่อตั้งทรอน(TRON) ปรากฏตัวในพอดแคสต์ของเดอริบิทเพื่อหารือเรื่องอนาคตของ Web3 โดยทางบริษัทก็ได้โพสต์บนทวิตเตอร์ว่า “ถือเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับจัสติน ซันมาร่วมพูดคุย” ขณะที่ซันเองก็ตอบรับไมตรีดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้สะท้อนว่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมกำลังกลับมายังตลาดสหรัฐอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความหวังว่า ‘เดอริบิท’ จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะจุดประกายชีวิตใหม่ให้กับวงการคริปโตในแดนลุงแซมอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0