เครือข่ายพาย(Pi Network) มียอดดาวน์โหลดทะลุ 120 ล้านครั้งทั่วโลก สะท้อนความสนใจใน *การเงินแบบกระจายศูนย์* ที่เพิ่มขึ้นในระดับสากล โดยในช่วง 30 วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1.3 ล้านราย โครงการนี้ก่อตั้งโดยทีมด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 55 ล้านคน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบการเงินที่เปิดกว้างและเป็นธรรมสำหรับทุกคน
ล่าสุด แบงซา(Banxa) ได้รับการอนุมัติ KYB (Know Your Business) สำหรับการจำหน่ายเหรียญ *พายคอยน์(PI)* ในระดับโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเปิดทางสู่ *การซื้อขายทั่วโลก* ของเหรียญพาย ตามรายงานระบุว่า แบงซาเคยซื้อเหรียญพายมูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) และกำลังวางแผนนำออกจำหน่ายในหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ราคาของ *พายคอยน์(PI)* กำลังเผชิญแรงกดดันขาลง โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบมานานกว่า 40 วัน ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 0.58 ดอลลาร์ ซึ่งระดับ *แนวต้านสำคัญ* อยู่ที่ช่วง 0.60–0.62 ดอลลาร์ ถ้าสามารถผ่านขึ้นไปได้ อาจช่วยให้เหรียญกลับมี *โมเมนตัม* อีกครั้ง
ค่าชี้วัดทางเทคนิคยังแสดงสัญญาณ *ขาลง* ทั้ง RSI ที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 40 สนับสนุนว่าตลาดยังอยู่ในภาวะอ่อนแรง ขณะเดียวกัน ราคาก็อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นถึงกลาง ได้แก่ ค่าเฉลี่ย 10, 20 และ 50 วัน ส่วน MACD ยังไม่แสดงสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น ด้วยเหตุนี้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงยังคงเลือก *รอดูท่าที* ท่ามกลางภาวะ *การปลดปล่อยเหรียญ(Unlock)* ในปริมาณมากที่ยังดำเนินอยู่
ในอดีต *พายคอยน์* เคยเปิดตัวด้วยราคาประมาณ 2 ดอลลาร์ ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะ 2.90 ดอลลาร์ และถูกนำไปจดทะเบียนใน 5 แพลตฟอร์มซื้อขาย คว้าอันดับ 11 บนเว็บไซต์คอยน์มาร์เก็ตแคป(CoinMarketCap) มาได้ แต่หลังจากนั้นราคากลับร่วงลงอย่างต่อเนื่อง มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดราว 0.40 ดอลลาร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้นำมาซึ่ง *เสียงวิจารณ์* เกี่ยวกับความมีประโยชน์ของตัวโครงการ
แม้ว่าราคาเหรียญจะผันผวนอย่างหนัก แต่ *การเติบโตของเครือข่าย* ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้หลายฝ่ายเชื่อว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะมีบทบาทสำคัญในการชี้ทิศทางของราคาในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคนในชุมชนพาย ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับ *วิสัยทัศน์ระยะยาว* มากกว่าการเคลื่อนไหวระยะสั้นของราคาในตลาด
ความคิดเห็น 0