ในขณะราคาทองคำมีแนวโน้มจะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ นักลงทุนนับวันยิ่งหันมาจับตามอง ‘บิตคอยน์(BTC)’ มากขึ้น เนื่องจากเมื่อสองสินทรัพย์นี้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ‘บิตคอยน์’ มักสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าทองคำหลายเท่า ส่งผลให้ความคาดหวังต่อการพุ่งขึ้นของ ‘บิตคอยน์’ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
โรเบิร์ต คิโยซากิ(Robert Kiyosaki) ผู้เขียนหนังสือดัง *พ่อรวยสอนลูก* ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า “2.1 ล้านก็คือ 2.1 ล้าน” โดยระบุว่าแม้ตนจะลงทุนในเหมืองทองและเงิน แต่ ‘บิตคอยน์’ มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ และไม่มีทางเพิ่มขึ้นได้อีก ไม่ว่าจะโดยธนาคารกลางหรือบริษัทขุดเหมือง
เขาให้ความเห็นว่า “ทองคำสามารถขุดเพิ่มได้เมื่อราคาสูงขึ้น แต่ ‘บิตคอยน์’ ถูกล็อกไว้ตลอดกาล” พร้อมย้ำว่าความ *หายาก* หรือ ‘scarcity’ นี้ คือข้อได้เปรียบสำคัญท่ามกลางเงินเฟ้อ การลดค่าของสกุลเงิน และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
แม้ว่าทองคำจะปรับตัวลงจากระดับ 3,500 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน เหลือ 3,237 ดอลลาร์ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม แต่ก็ยังสูงกว่าราคาต้นปีถึง 33% ในขณะที่ ‘บิตคอยน์’ เพิ่มขึ้นเพียง 0.82% ในปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่าอาจเป็น ‘ช่วงพักฐาน’ ก่อนกลับมาทำจุดสูงใหม่อีกครั้ง
นักวิเคราะห์คริปโตที่ใช้ชื่อว่า ‘คริปโตลิกา’ ระบุว่าจากข้อมูลในอดีต ช่วงเดือนมีนาคม 2020 ถึงมีนาคม 2022 ทองคำเพิ่มขึ้น 35.5% ในขณะที่ ‘บิตคอยน์’ พุ่งถึง 1,100% หากสถานการณ์คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นอีกครั้ง ‘บิตคอยน์’ อาจพุ่งทะลุแนวต้านและแตะระดับ 155,000 ดอลลาร์
ด้านการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เป็นปัจจัยชี้ขาดประการสำคัญ แม้ทรัมป์จะเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย แต่ตามข้อมูลของ CME FedWatch เครื่องมือพยากรณ์การเคลื่อนไหวของเฟด พบว่ามีความเป็นไปได้ถึง 97% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในครึ่งหลังของปี 2025 อาจส่งผลบวกต่อราคาทั้งทองคำและ ‘บิตคอยน์’
การสนับสนุนของคิโยซากิต่อบิตคอยน์ไม่ใช่เพียงกระแสโฆษณา แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึง *คุณค่าพื้นฐาน* ที่แท้จริงของสินทรัพย์นี้ หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ‘บิตคอยน์’ อาจกลายเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่สามารถ *แซงหน้าทองคำ* ได้ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0