บิตคอยน์(BTC)ทะยานแตะ 103,000 ดอลลาร์ หลัง Larry Fink คาดอาจพุ่งถึง 500,000 ดอลลาร์ใน 10 ปี

บิตคอยน์(BTC)ทะยานขึ้นกว่า 6.41% ภายในวันเดียว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม กลับมาแตะระดับ ‘10,0000 ดอลลาร์’ อีกครั้ง สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดคริปโตอีกระลอก โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้นรวม 6.9% ขณะที่ภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุดยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกกว่า 0.3%

กระแสขาขึ้นนี้ยิ่งได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากคำทำนายสุดกล้าของ แลร์รี ฟิงก์(Larry Fink) ซีอีโอของแบล็ครอก เขาคาดว่าบิตคอยน์อาจทะลุ ‘500,000 ดอลลาร์’ ภายในเวลา 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า โดยเชื่อว่าบิตคอยน์สามารถกลายเป็นสินทรัพย์มูลค่า ‘10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ’ ได้ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันอย่างชัดเจน

การทะยานขึ้นของราคาครั้งนี้ ยังสัมพันธ์กับความเคลื่อนไหวของกองทุน ETF ที่ยังคงมี ‘เงินไหลเข้า’ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันตลาดสหรัฐมี ETF บิตคอยน์แบบสปอตทั้งหมด 11 กองทุน มูลค่ารวมสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) สูงถึง 118.6 พันล้านดอลลาร์ และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 120.8 พันล้านดอลลาร์ พร้อมปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์

ในบรรดา ETF เหล่านี้ กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของแบล็ครอกเป็นผู้นำ ด้วยมูลค่า AUM ที่ทะลุ 62.7 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนพฤษภาคม มีการไหลเข้าของบิตคอยน์มากถึง 21,303.28 BTC เพียงรายเดียว

"การทำนายของฟิงก์ไม่ได้เป็นเพียงการคาดการณ์ส่วนตัว แต่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแบล็ครอกกำลังมองบิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินโลก" — *ความคิดเห็น*

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว บิตคอยน์เคยมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 69,374.85 ดอลลาร์ ก่อนจะพุ่งขึ้น 56.23% จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม และมีการเคลื่อนไหวระหว่าง 92,455.22 ถึง 106,132.47 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีไปจนถึง 23 กุมภาพันธ์ 2024 อย่างไรก็ตาม วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ราคาปรับตัวลดลงแรง 4.92% และดิ่งลงต่อเนื่องถึงระดับ 74,532.07 ดอลลาร์ในวันที่ 7 เมษายน

แต่เพียงไม่กี่วันถัดมา ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นมา บิตคอยน์พลิกตัวขึ้นแรงถึง 35.38% จนราคาปัจจุบันกลับมายืนเหนือที่ 103,376.94 ดอลลาร์อีกครั้ง

สำหรับผลตอบแทนในแต่ละเดือนนั้น มกราคม +9.54%, กุมภาพันธ์ -17.5%, มีนาคม -2.19%, เมษายน +14.2% และพฤษภาคมจนถึงปัจจุบัน +9.57% แสดงให้เห็นถึงความผันผวนสูงแต่ยังคงแนวโน้มเชิงบวกโดยรวม

ดัชนี RSI ล่าสุดอยู่ที่ 75.29 อยู่ในโซน ‘ซื้อมากเกินไป’ สะท้อนความร้อนแรงของตลาด แต่ถึงอย่างนั้น ราคายังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (88,534.40 ดอลลาร์), 100 วัน (89,842.09 ดอลลาร์) และ 200 วัน (91,233.80 ดอลลาร์) ทั้งหมด

ในด้านเทคนิค ดัชนี MACD อยู่ที่ 3,803.03 สูงกว่าค่า Signal Line ที่ 3,163.09 แสดงว่าการขาขึ้นยังคงมีแรงต่อเนื่อง แม้ว่า OBV ซึ่งเป็นตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขายจะแสดงค่าเป็นลบที่ -492,540 บ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังมีอยู่ แต่อารมณ์ของตลาดโดยรวมยังคง ‘เป็นบวก’ อย่างชัดเจน