ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับการควบคุมทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ โรน พอล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และโรเบิร์ต คิโยซากิ นักเขียนด้านการเงินชื่อดัง ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบจากแนวทางการใช้จ่ายของรัฐบาลและอำนาจของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่มีต่อระบบการเงินในปัจจุบัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ โรน พอลแสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) วิจารณ์ว่า ทั้งสองพรรคการเมืองหลักของสหรัฐมีพฤติกรรมร่วมมือกันในการอนุมัติงบประมาณทางการทหารมูลค่ามหาศาลกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยไม่สนใจผลกระทบทางการคลัง เขาระบุว่าการเพิ่มหนี้โดยไม่จำกัด พร้อมกับนโยบายควบคุมภายในประเทศ เช่น บัตรประชาชน REAL ID เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอเมริกากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบอบรวมศูนย์อำนาจ โรน พอลยังกล่าวอย่างชัดเจนว่า ‘การเปลี่ยนพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้’ พร้อมเสนอว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบจากพื้นฐาน
โรเบิร์ต คิโยซากิออกมาสนับสนุนความเห็นของพอลในเรื่องนี้ โดยได้กล่าวโจมตีธนาคารกลางต่างๆ ที่ควบคุมอัตราดอกเบี้ยว่าเป็นการ ‘ควบคุมราคา’ ซึ่งไปละเมิดกลไกตลาดอย่างร้ายแรง เขาชี้ว่าการแทรกแซงเช่นนี้คล้ายกับระบบการวางแผนเศรษฐกิจแบบมาร์กซิสต์ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลเท็จและพึ่งพาผู้นำที่ฉ้อฉล ส่งผลให้เสรีภาพส่วนบุคคลและความมั่งคั่งถูกกัดกร่อนลงไปทุกวัน
คิโยซากิยังแนะนำทางรอดจากระบบที่เขาเรียกว่า ‘การควบคุมทางเศรษฐกิจของรัฐ’ ด้วยการหลีกเลี่ยงการถือครองเงินเฟียต และหันไปลงทุนในสินทรัพย์แบบไร้ศูนย์กลาง เช่น บิตคอยน์(BTC), ทองคำ และเงิน เขาเชื่อว่าสินทรัพย์เหล่านี้สามารถ ‘ปกป้องความมั่งคั่ง’ ของประชาชนจากระบบการเงินที่รัฐควบคุมอย่างเข้มงวดได้ คิโยซากิสรุปว่าแนวทางการกระจายอำนาจคือเครื่องมือสำหรับประชาชนในการต่อต้านการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมที่ใช้การควบคุมเป็นหัวใจหลัก
*ความคิดเห็น: ประเด็นการวิพากษ์ระบบเศรษฐกิจผ่านมุมมองของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยผู้มีอิทธิพลอย่างโรน พอลและคิโยซากิ ยิ่งตอกย้ำบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะสิ่งหลีกเลี่ยงจากการครอบงำของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม*
ความคิดเห็น 0