เกาะติเนียนในเครือหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา เตรียมรื้อฟื้นแนวคิดการออก *สเตเบิลคอยน์* ของตนเองอีกครั้ง หลังจากที่วุฒิสภาท้องถิ่นเพิกถอนการยับยั้งร่างกฎหมายโดยผู้ว่าการรัฐ และผลักดันให้ร่างดังกล่าวเดินหน้าต่อ
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม (เวลาท้องถิ่น) Cointelegraph รายงานว่า วุฒิสภาของหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาได้ลงมติ 7 ต่อ 1 เพื่อเพิกถอนการยับยั้งร่างกฎหมายที่เสนอให้เกาะติเนียนสามารถออกและบริหารจัดการ *โทเคนแบบมีเสถียรภาพ ‘ติเนียน สเตเบิลโทเคน’* ได้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเคยถูกปฏิเสธโดยผู้ว่าการรัฐอาร์โนลด์ พาลาซิโอส(Arnold Palacios) เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา
สาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้ระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นของติเนียนจะมีอำนาจในการออกใบอนุญาต *คาสิโนออนไลน์* และให้สำนักงานการคลังของติเนียนเป็นผู้จัดการออก, ดูแล และแลกคืน *ติเนียน สเตเบิลโทเคน*
หลังจากการผ่านในวุฒิสภา ร่างกฎหมายจะต้องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร โดยจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อยสองในสามจากสมาชิกทั้งหมด 20 คน เพื่อให้สามารถลบล้างอำนาจการยับยั้งของผู้ว่าการและให้ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ หากสำเร็จ ติเนียนจะกลายเป็นเขตปกครองแรกในสหรัฐฯ ที่ออก *สเตเบิลคอยน์โดยหน่วยงานรัฐ*
ในเวลาไล่เลี่ยกัน รัฐไวโอมิงก็เตรียมเปิดตัว *สเตเบิลคอยน์ภาครัฐ* ของตนภายในเดือนกรกฎาคม ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อแย่งชิงสถานะ ‘รายแรก’ ระหว่างเขตการปกครองต่างๆ ภายในประเทศ
ติเนียนเป็นหนึ่งใน 4 เขตปกครองของหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะกวม มีประชากรราว 2,000 คน โดยเศรษฐกิจของเกาะพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก โครงการ *สเตเบิลคอยน์* จึงถูกมองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกระตุ้นเศรษฐกิจและการทดลองด้านการเงินดิจิทัลในพื้นที่ขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่ โดยผู้ว่าการพาลาซิโอสได้แสดงท่าทีคัดค้านว่าร่างกฎหมายนี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและจัดการกับกิจกรรมที่เกินขอบเขตของติเนียนเพียงอย่างเดียว
เซลินา บาบาอูตา สมาชิกวุฒิสภาฝ่ายประชาธิปไตยและผู้ลงคะแนนเสียงคัดค้านเพียงคนเดียวให้ความเห็นว่า “เราขาดทั้งทรัพยากรและบุคลากรเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของคาสิโนหรือการใช้ *สเตเบิลคอยน์* ในพื้นที่” และยังเสริมอีกว่า “เมื่อเราต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลกลางอย่างเคร่งครัด การบังคับใช้ร่างกฎหมายนี้จึงซับซ้อนยิ่งขึ้น”
*ความคิดเห็น*: การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของติเนียนอาจเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับการออกสินทรัพย์ดิจิทัลโดยหน่วยงานรัฐในสหรัฐฯ ซึ่งกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านขั้นตอนสุดท้าย อาจเปิดทางให้พื้นที่อื่นๆ เดินตามแนวทางเดียวกันในอนาคต
ความคิดเห็น 0