อินเดียเพิ่มมาตรการตรวจสอบการซื้อขายคริปโตในแคว้นชัมมูและแคชเมียร์ โดยให้เหตุผลเรื่องความกังวลด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทุนผิดกฎหมาย สำนักข่าว Economic Times รายงานเมื่อวันที่ 24 ว่ารัฐบาลอินเดียได้สั่งให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่ชายแดนใกล้เคียง ติดตามกิจกรรมที่อาจเป็นความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด
การดำเนินการนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดด้านความมั่นคง หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีในเขตปัลกัม(Pulwama) ส่งผลให้ชื่อโทเคนบนแพลตฟอร์มอย่างโซลานา(SOL) อ้างอิงคำว่า ‘ปัลกัม’ และ ‘Operation Sindoor’ ปรากฏขึ้น สร้างความกังวลว่าคริปโตอาจถูกใช้เป็นช่องทางสนับสนุนกิจกรรมกลุ่มหัวรุนแรง
สำนักงานข่าวกรองด้านการเงินของอินเดีย (FIU-IND) ได้ร้องขอให้แพลตฟอร์มบางแห่งในประเทศเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะกับกระเป๋าเงินส่วนบุคคลที่ไม่ผ่านศูนย์กลาง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเพราะสามารถทำธุรกรรมระหว่างบุคคลได้โดยตรง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยว่า “เวลานี้เราให้ความสำคัญกับธุรกรรมในพื้นที่ชายแดนมากกว่าการจับตาธุรกรรมทั่วไป”
คล้ายกับระบบธนาคาร แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในอินเดียจะต้องรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยต่อ FIU เป็นประจำ โดยมีการเสริมกฎควบคุมการถอนคริปโตเข้มงวดขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางการเคลื่อนย้ายทุนได้อย่างละเอียดมากขึ้น แม้คริปโตจะมีคุณลักษณะหลบเลี่ยงการติดตามก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มบางแห่งได้ทดลองใช้การยืนยันตัวตนกับกระเป๋าเงินของไบแนนซ์(Binance) ว่าเป็นของผู้ใช้งานจริงก่อนที่จะอนุญาตให้ถอนเงิน แต่ความท้าทายยังคงอยู่ เนื่องจากเมื่อเงินทุนเข้าสู่ระบบไบแนนซ์แล้ว ก็สามารถเคลื่อนย้ายไปยังที่ใดก็ได้โดยไร้การควบคุม ขณะที่แนวทางสากลในการตรวจสอบการโอนเงินข้ามพรมแดนด้วยคริปโตยังไม่มีความชัดเจน
ในอีกด้านหนึ่ง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย (SEBI) ได้ขอให้ผู้ดูแลการลงทุนทางเลือก (AIF) เพิ่มการตรวจสอบความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและเงินสนับสนุนการก่อการร้ายภายในกองทุนด้วยเช่นกัน
*ความคิดเห็น:* ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความยากลำบากของรัฐในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไร้ศูนย์กลาง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวโยงกับความมั่นคงระดับประเทศ
ความคิดเห็น 0