คณะกรรมการ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ‘เฮสเตอร์ เพียร์ซ’ ชี้หน่วยงานไม่มีอำนาจควบคุมมิมคอยน์
เมื่อวันที่ 11 ตามรายงานของ Bloomberg เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ให้สัมภาษณ์ว่า "ส่วนใหญ่มิมคอยน์(Meme Coin) ไม่อยู่ในขอบข่ายการกำกับดูแลของ ก.ล.ต." พร้อมเสริมว่า "ประเด็นนี้ควรเป็นหน้าที่ของรัฐสภาหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ มากกว่า"
ความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่านักลงทุนใน 'ทรัมป์(TRUMP)' ซึ่งเป็นมิมคอยน์อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์ สูญเสียเงินถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainalysis พบว่ามีวอลเล็ตกว่า 813,000 รายการที่ขาดทุนรวมกันเป็นมูลค่าดังกล่าว
มิมคอยน์ TRUMP เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 มกราคม ปีนี้ และพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ 72.60 ดอลลาร์ภายในวันที่ 19 มกราคม ก่อนร่วงลงกว่า 80% ทำให้มูลค่าตลาดลดลงจาก 14.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 3 หมื่นล้านดอลลาร์
แม้ราคาจะร่วงลงอย่างหนัก แต่กลุ่มผู้สนับสนุนของทรัมป์รวมถึงพันธมิตรยังคงทำกำไรได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่าง ๆ
มิมคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สร้างขึ้นจากกระแสความนิยมบนอินเทอร์เน็ตหรือการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียง แตกต่างจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่เน้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มูลค่าของมิมคอยน์มักได้รับอิทธิพลจากคอมมิวนิตี้และความเชื่อมั่นของผู้ถือครอง
ด้านเนท เจอราชี(Nate Geraci) ประธาน ETF Store แสดงความเห็นว่า "มิมคอยน์ใกล้เคียงกับของสะสมมากกว่าสินทรัพย์การลงทุนแบบดั้งเดิม และไม่ควรเป็นเป้าหมายของ ก.ล.ต."
ในขณะที่ ลิน อัลเดน(Lyn Alden) นักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เปรียบเทียบกระแสมิมคอยน์กับปรากฏการณ์ ICO และ NFT ในปี 2017 พร้อมระบุว่า "สถาบันการเงินที่เคยมองข้ามบิตคอยน์ ตอนนี้กลับใช้มิมคอยน์เป็นข้ออ้างในการวิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์อีกครั้ง" และแนะนำว่า "พวกเขาควรเลือกเข้าซื้อบิตคอยน์แทน"
ความคิดเห็น 0