เอลซัลวาดอร์บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในการประเมินรอบแรกของโครงการสนับสนุนทางการเงินแบบขยายระยะเวลา 40 เดือน โดยแม้จะได้รับการประเมินเชิงบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและการเงิน แต่ IMF ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบาย *บิตคอยน์(BTC)* ของประเทศอีกครั้ง และเสนอให้ทางการชะลอการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลภาครัฐ "ชิโว่ วอลเลต" อย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น โรดริโก คูเบดู และหลุยส์ ตอร์เรส คณะเจ้าหน้าที่ IMF ที่รับผิดชอบโครงการนี้ ระบุว่า เอลซัลวาดอร์ยังคงดำเนินการตามเป้าหมายการคลังและเงินสำรองอย่างมีวินัย พร้อมทั้งขับเคลื่อนการปฏิรูปในภาคธรรมาภิบาลและความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอยู่ในระดับสูง และการส่งเงินกลับประเทศก็เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม IMF ได้เน้นย้ำความวิตกเกี่ยวกับการถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* โดยรัฐบาลอีกครั้ง “รัฐบาลจะต้องคงจำนวนบิตคอยน์ในกระเป๋าเงินทั้งหมดไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง” IMF กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ทางการควรยุติการสนับสนุนภาครัฐต่อ *ชิโว่ วอลเลต* อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เอลซัลวาดอร์ได้ทำข้อตกลงสนับสนุนทางการเงินกับ IMF มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 19,180 พันล้านวอน) ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดสำคัญว่าการยอมรับ *บิตคอยน์(BTC)* โดยภาคเอกชนต้องเป็นไปโดยสมัครใจ และรัฐบาลจะต้องลดการมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
แม้จะมีแรงกดดันจาก IMF แต่ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเลยังคงยืนยันว่า *คริปโตเคอร์เรนซี* ยังคงเป็นหัวใจหลักของวิสัยทัศน์ประเทศ โดย ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2025 เอลซัลวาดอร์ถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* อยู่ประมาณ 6,190 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 675 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9,248 พันล้านวอน
ความคิดเห็น 0