ความสนใจในคดีระหว่างริเปิล(Ripple) และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) พุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีการยื่น ‘หลักฐานชี้ขาด’ ครั้งใหม่ที่อาจส่งผลเปลี่ยนทิศทางของคดี โดยหลักฐานดังกล่าวถูกยื่นผ่านคำร้องฉุกเฉินจากผู้ใช้นามว่า จัสติน ดับเบิลยู. คีเนอร์ ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากแวดวงกฎหมายในสหรัฐอย่างมาก
คีเนอร์อ้างว่าเขาครอบครอง ‘หลักฐานชี้ขาด’ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์ของคดีนี้เป็นประโยชน์ต่อริเปิล ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง บิล มอร์แกน และมาร์ก พาร์เกล ต่างออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
ตามความเห็นของบิล มอร์แกน เมื่อวันที่ 16 เขาคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการยื่นเอกสารบางรูปแบบ แต่ไม่คิดว่าจะมาพร้อมการกล่าวหาทางอารมณ์ต่อแนวทางของ SEC ที่มีอายุยาวนานกว่า 90 ปี โดยเฉพาะในแง่ของการตีความ ‘สัญญาการลงทุน’ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทดสอบฮาววี(Howey Test)
ในขณะเดียวกัน มาร์ก พาร์เกล ตั้งข้อสังเกตว่า คีเนอร์ได้ทำการยื่นเอกสารเป็นครั้งที่สอง และ SEC เองก็ได้ดำเนินการตอบสนองต่อการยื่นครั้งแรกแล้ว เขายังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมบัญชี PACER ของบุคคลดังกล่าวยังไม่ถูกปิดกั้น แม้จะผ่านการปฏิเสธจากศาลมาแล้วในครั้งก่อน
ด้านริเปิลเอง ได้ส่งจดหมายถึง SEC โดยยืนยันว่า โทเคนที่ใช้แลกเปลี่ยนกันได้ เช่น เอ็กซ์อาร์พี(XRP) ไม่ควรถูกจัดว่าเป็นหลักทรัพย์ในตลาดรอง ตามคำวินิจฉัยของศาลในปี 2023 และข้อคิดเห็นของนักกฎหมายอย่าง ลูอิส โคเฮน ที่ชี้ว่าโทเคนลักษณะดังกล่าวไม่เข้าข่ายมีลักษณะทางกฎหมายของหลักทรัพย์
ทั้งนี้ คีเนอร์เคยยื่น ‘หลักฐานชี้ขาด’ มาแล้วในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ถูกศาลปฏิเสธ ล่าสุดเขากลับมายื่นใหม่อีกครั้ง ขณะเดียวกันเขาก็เพิ่งถูกปรับเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อหาทำการซื้อขายหุ้นเพนนีอย่างผิดกฎหมายโดยไม่ได้จดทะเบียนเป็นดีลเลอร์ ซึ่งยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับบทบาทของเขาในคดีนี้อีกเท่าตัว
*ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในคดี หรืออาจเป็นเพียงเสียงสะท้อนที่ไร้ผลทางกฎหมาย ต้องติดตามกันต่อไป*
ความคิดเห็น 0