โรบินฮูด(Robinhood) รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากปริมาณการซื้อขายคริปโตที่พุ่งสูงขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
โรบินฮูดเปิดเผยว่ารายได้ไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 1.01 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 940.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจซื้อขายคริปโตมีการเติบโตโดดเด่น โดยสร้างรายได้ 358 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 700% จากปีก่อน ส่งผลให้ ‘สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร’ (AUC) ของบริษัทเพิ่มขึ้น 88% แตะระดับ 193 พันล้านดอลลาร์
วลาด เทเนฟ(Vlad Tenev) ซีอีโอของโรบินฮูดกล่าวว่า "ตลอดปี 2024 เราได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินได้ง่ายขึ้น"
โรบินฮูดยังทยอยขยายบริการคริปโตในสหรัฐและยุโรป โดยปริมาณการซื้อขายคริปโตในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นกว่า 400% แตะ 71 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังเพิ่มเหรียญคริปโตใหม่ 7 รายการในตลาดสหรัฐ และเปิดตัว ‘บริการสเตกอีเธอเรียม(ETH)’ ในยุโรป
เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 โรบินฮูดประกาศเข้าซื้อกิจการ ‘บิทสแตมป์(Bitstamp)’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำ มูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติด้านกฎระเบียบ คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 2025
บริษัทเดินหน้าเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเปิดให้บริการ ‘ซื้อขายออปชันตามดัชนี’ และ ‘ฟีเจอร์ซื้อขายล่วงหน้า’ ครอบคลุมตลาดหุ้น พลังงาน ค่าเงิน โลหะมีค่า และคริปโต เพื่อเสริมสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนแบบครบวงจร
อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ธุรกิจอนุพันธ์ของโรบินฮูดกลับเผชิญปัญหาเมื่อ ‘คณะกรรมาธิการการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์’ (CFTC) ของสหรัฐ สั่งระงับการขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยระบุว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานกฎระเบียบ ส่งผลให้โรบินฮูดต้องยกเลิกแผนเปิดตลาด ‘โปรฟุตบอลแชมเปียนชิป’
ทั้งนี้ โรบินฮูดยืนยันว่าจะประสานงานกับ CFTC ต่อไป เพื่อเจรจาแนวทางผ่อนคลายกฎเกณฑ์ ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มคริปโตอื่นอย่าง ‘คริปโตดอทคอม’ และ ‘คาลชิ(Kalshi)’ ก็กำลังเผชิญข้อจำกัดคล้ายกันจากหน่วยงานกำกับดูแล
ความคิดเห็น 0