ดอจคอยน์(DOGE), ริปเปิล(XRP), ชิบะอินุ(SHIB) เผชิญแรงขายหนัก จับตาแนวรับสำคัญอาจชี้ทิศทางตลาด

ตลาดคริปโตเริ่มหันมาจับตาความเคลื่อนไหวของ *ดอจคอยน์(DOGE)*, *ริปเปิล(XRP)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* ที่ต่างเผชิญกับแรงขายรุนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางเทคนิคสำคัญซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว หรือจุดเริ่มต้นของการปรับฐานรอบใหม่

ในกรณีของ *ดอจคอยน์(DOGE)* แนวรับที่ระดับ 0.145 ดอลลาร์ (ประมาณ 202 บาท) กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยราคาปรับตัวลดลงกว่า 35% จากระดับสูงสุดล่าสุด ซึ่งถือเป็นจุดทดสอบสำคัญของโอกาสในการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ราคาดอจคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน, 100 วัน และ 200 วัน ทำให้ระดับเหล่านี้กลายเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง ตลาดยังคงอยู่ใน *โครงสร้างขาลง* และแม้ว่า RSI จะตกลงมาอยู่ในระดับ 27 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเข้าสู่ภาวะ 'ขายมากเกินไป' แต่ปริมาณซื้อขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีสัญญาณแรงซื้อที่ชัดเจน

ขณะเดียวกัน *ริปเปิล(XRP)* ก็ประสบความยากลำบาก หลังหลุดแนวรับของกราฟรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตรที่เคยคงอยู่มาหลายสัปดาห์ และไหลทะลุระดับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันลงมา สถานการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นมากกว่าแค่แรงขายทั่วไป แต่สื่อถึงความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง โดยแนวรับจิตวิทยาที่ระดับ 2 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,780 บาท) ถูกเจาะลงมา ทำให้เกิดแรงขายอย่างหนัก ขณะ RSI อยู่ที่ระดับ 32 บ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแรง หากไม่สามารถกลับมายืนเหนือแนวรับ 2.05–2.10 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,850–2,919 บาท) ได้ ความเสี่ยงในการถอยกลับไปที่โซน 1.80–1.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,502–2,363 บาท) ยังคงมีอยู่

*ชิบะอินุ(SHIB)* ก็กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนสำคัญเช่นกันในระดับ 0.000010 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.0139 บาท) ซึ่งเป็นทั้งแนวรับทางเทคนิคและแนวจิตวิทยา อย่างไรก็ตาม ราคา SHIB ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทุกช่วงเวลา ขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อ่อนแอลง แม้ว่า RSI จะหล่นลงมาที่ระดับ 26 ซึ่งอยู่ในโซน 'ขายมากเกินไป' แต่ก็ยังไร้สัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน หากแนวรับนี้ถูกทำลาย อาจเกิดการปรับฐานลงไปอีก โดยมีโอกาสที่จะเห็นราคาลดลงในระดับจุดทศนิยมเพิ่มขึ้นอีกหลัก

โดยสรุป ทั้งสามเหรียญกำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น *แรงซื้อที่อ่อน*, *แนวโน้มทางเทคนิคที่เป็นลบ*, และ *ภาวะขายมากเกินไปที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข* ถึงแม้จะมีช่องว่างในการเกิดดีดตัวในระยะสั้น แต่บรรยากาศโดยรวมของตลาดที่ไม่มั่นคงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อ่อนแรง อาจจะทำให้ *โอกาสในการฟื้นตัวถูกจำกัด* นักลงทุนควรจับตาพฤติกรรมราคาใกล้แนวรับหลัก, ค่า RSI และปริมาณการซื้อขายอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินจังหวะการเข้าซื้อหรือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในระยะสั้น