สหรัฐเสนอร่าง COIN Act ควบคุมคริปโตเจ้าหน้าที่รัฐ หลังทรัมป์ถูกเปิดเผยรายได้กว่า 57 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) อดัม ชิฟฟ์(Adam Schiff) สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตในรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมด้วยสมาชิกสภาคองเกรสรวม 10 คน ได้ร่วมกันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินดิจิทัลในทางมิชอบ โดยมีแก่นหลักคือจำกัดการใช้ ‘รายได้จากคริปโต’ ของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

ร่างกฎหมายดังกล่าวเรียกว่า ‘กฎหมายควบคุมรายได้และป้องกันการเปิดเผยไม่เพียงพอของเจ้าหน้าที่รัฐ’ หรือ ‘COIN Act’ ซึ่งชิฟฟ์และผู้ร่วมเสนอระบุว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรณีของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีรายงานว่าได้รับรายได้จากการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี

ในรายละเอียด ร่าง COIN Act นี้เน้น ‘ป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดี สมาชิกในครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง’ ใช้ ‘ทรัพย์สินดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว’ หรือ ‘ปกปิดธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต’

การเสนอร่างกฎหมายครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน หลังมีการเปิดเผยว่า *ทรัมป์* ได้รับรายได้สูงถึง 57.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 797 ล้านบาท) จากแพลตฟอร์มคริปโตที่ชื่อว่า *World Liberty Financial (WLF)* ซึ่งมีสมาชิกในครอบครัวร่วมเกี่ยวข้องอยู่ด้วย จากข้อมูลในเอกสารแสดงรายการทรัพย์สินล่าสุด ทำให้เกิดความกังวลว่า อาจมีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัวผ่านโปรเจกต์ทรัพย์สินดิจิทัลดังกล่าว

ชิฟฟ์แถลงว่า “รายได้จากคริปโตของทรัมป์ ก่อให้เกิดข้อกังวลทางกฎหมายและจริยธรรมเกี่ยวกับการนำตำแหน่งทางราชการมาใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว” พร้อมย้ำว่า “เราไม่สามารถปล่อยให้ประธานาธิบดี สมาชิกในครอบครัว หรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้คริปโตเพื่อนำพาตัวเองไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัวได้อีกแล้ว ถึงเวลาออกกฎหมายเพื่อควบคุมเรื่องนี้อย่างจริงจัง”

หากร่างกฎหมาย COIN Act ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้เกิด *ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส* ที่เข้มงวดขึ้นต่อการถือครองและทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในหมู่ประธานาธิบดี ครอบครัว และเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลาย

ในช่วงเวลาที่ *ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์เกี่ยวกับคริปโตในแวดวงการเมือง* กำลังร้อนแรง กลไกควบคุมแบบใหม่จึงอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในภาครัฐ