อาเธอร์ บริโต(Arthur Britto) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งริปเปิล(XRP) กลับมาเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ด้วยการโพสต์อีโมจิรูป ‘😶’ บนแพลตฟอร์ม X (อดีตทวิตเตอร์) เมื่อไม่นานมานี้ การเคลื่อนไหวเล็กน้อยแต่เปี่ยมด้วยนัยยะนี้สร้างความฮือฮาในชุมชนริปเปิลทันที โดย เดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) ของริปเปิล ได้ออกมายืนยันว่าบัญชีดังกล่าวไม่ได้ถูกแฮ็กหรือปลอมแปลงแต่อย่างใด
บริโตเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ‘บัญชี XRP (XRP Ledger)’ โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งอีกสองรายคือ ชวาร์ตซ์ที่ปัจจุบันเป็น CTO ของริปเปิล และ เจด แมคเคเล็บ(Jed McCaleb) ผู้ก่อตั้งสเตลลาร์(XLM) แม้ชวาร์ตซ์และแมคเคเล็บจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่บริโตกลับดำเนินชีวิตอย่างเงียบเชียบ อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 เขาเคยได้รับความสนใจจากสื่อบน YouTube ซ้ำเติมชื่อเสียงจากคำพูดในปี 2017 ที่เขากล่าวว่า ‘XRP อาจมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ดอลลาร์’
วิสัยทัศน์ทางเทคนิคของบริโตนั้นล้ำลึกไปกว่าการคาดการณ์ราคา เขามุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงมนุษยชาติทั่วโลก โดยออกแบบบัญชี XRP ให้มีความเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และรองรับการขยายตัวในระดับสูง ในบันทึกภายในองค์กรเมื่อปี 2013 เขาเคยระบุว่า ‘การกระจายตัวของ XRP สำคัญกว่ามูลค่า’ และแนะนำให้สถาบันการเงินมุ่งใช้เลเจอร์มากกว่าตัวโทเคน
ปัจจุบันเครือข่ายบัญชี XRP กำลังยกระดับไปอีกขั้นตามวิสัยทัศน์ของบริโต โดยถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในด้านสมาร์ทคอนแทรกต์, สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC), สเตเบิลคอยน์สำหรับสถาบัน (RLUSD), ดีไฟ(DeFi), โทเคน NFT และการโอนเงินระหว่างประเทศ
การกลับมาโพสต์ของบริโตเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ XRP กำลังมีกระแสตอบรับเชิงบวก โดยเมื่อไม่นานมานี้ บัญชี XRP ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือนด้วยจำนวนธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันที่กว่า 1.5 ล้านรายการ ขณะเดียวกัน ข่าวการเตรียม IPO ของริปเปิล, การเติบโตของกิจกรรมบนบล็อกเชน และความคาดหวังต่อการเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ ทำให้โครงการดูมีพลังมากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ประกาศเตรียมนำ ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง (Reputation Risk)’ ออกจากเกณฑ์ประเมินธนาคาร ซึ่งอาจเปิดประตูให้สถาบันการเงินหันมาทดลองใช้คริปโตมากขึ้น
*ความคิดเห็น: แม้การโพสต์ของบริโตจะมีเพียงอีโมจิเพียงหนึ่งตัว แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบนิเวศของ XRP ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดเทคโนโลยี การเดินหน้าโปรเจกต์ภายในใหม่ หรือความร่วมมือด้านสภาพคล่องกับสถาบันทั่วโลก*
ความคิดเห็น 0