ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ราคาของอีเธอเรียม(ETH) พุ่งทะลุ 2,434 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 338,000 บาท) หลังจาก *ทรัมป์* ประกาศแผนหยุดยิงระหว่าง *อิสราเอลและอิหร่าน* เมื่อวันที่ 23 ผ่าน Truth Social ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมหนุนให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา สถานการณ์ดังกล่าวประกอบกับการเข้าซื้อของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ และการเติบโตของเครือข่ายอีเธอเรียม ส่งผลให้นักลงทุนจับตาแนวโน้มขาขึ้นระลอกใหม่อย่างใกล้ชิด
หลังจากทรัมป์เผยแผนหยุดยิงแบบขั้นบันได ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ *อิหร่าน* หยุดยิง 12 ชั่วโมง ตามด้วยการตอบรับจาก *อิสราเอล* ทำให้เกิดการหยุดยิงรวม 24 ชั่วโมง นักลงทุนหันกลับมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง โดย *อีเธอเรียม* ดีดตัวขึ้นกว่า 9% ภายในวันเดียว จากระดับ 2,230 ดอลลาร์ (ประมาณ 310,000 บาท) พุ่งถึง 2,434 ดอลลาร์ในชั่วโมงถัดมา ปัจจุบันซื้อขายอยู่ราว 2,420 ดอลลาร์ (ประมาณ 336,000 บาท)
แรงหนุนอีกประการสำคัญคือข้อมูลจาก *ออนเชน* ที่เผยว่ามีนักลงทุนสถาบันรายใหญ่รายหนึ่งเข้าซื้อ ETH จำนวน 47,070 เหรียญ ภายในเวลา 3 วัน โดยราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 2,400 ดอลลาร์ รวมมูลค่าการลงทุนราว 113 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,573 ล้านบาท) และหากนับเฉพาะ 11 วันที่ผ่านมา นักลงทุนรายนี้สะสม ETH ผ่านตลาด OTC ไปแล้วรวม 132,535 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 334 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,643 ล้านบาท) *ความคิดเห็น*: การสะสมเหรียญในช่วงตลาดผันผวน แสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนรายใหญ่ต่อทิศทางระยะยาวของอีเธอเรียม
ด้านกิจกรรมบนเครือข่าย *อีเธอเรียม* ก็อยู่ในทิศทางขาขึ้นเช่นกัน โดยตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม มีการสร้างกระเป๋าสตางค์ใหม่มากกว่า 1 ล้านใบในแต่ละสัปดาห์ เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความสนใจที่ยังต่อเนื่องต่อระบบนิเวศของ ETH
จากมุมมองทางเทคนิค นักวิเคราะห์ชี้ว่า อีเธอเรียมทะลุแนวต้านเดิมที่ 2,275 ดอลลาร์ (ประมาณ 316,000 บาท) และเปลี่ยนเป็นแนวรับสำคัญ ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายในช่วงดังกล่าวก็พุ่งสูงถึง 2.5 เท่าของค่าเฉลี่ยรายวัน เป็นสัญญาณบวกของแนวโน้มราคา ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่าแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ *2,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 348,000 บาท)* หากฝ่าไปได้ก็มีโอกาสเกิดคลื่นขาขึ้นครั้งใหม่
ในขณะที่บางนักวิเคราะห์มองว่าตอนนี้ ETH อาจกำลังพักฐานในระยะสั้น โดย *AlienOvicho* นักวิเคราะห์คริปโต ระบุว่า หากปรับฐานลงสู่ช่วงราคา 2,140–1,970 ดอลลาร์ (ประมาณ 297,000–274,000 บาท) ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับการเก็บสะสม และหากมีสัญญาณกลับตัวชัดเจน ก็มีลุ้นรีบาวด์กลับขึ้นไปเหนือระดับ 2,300 ดอลลาร์อีกครั้ง
ในภาพรวม ปัจจัยบวกทั้งจาก *การผ่อนคลายวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์* ความเคลื่อนไหวของ ‘วาฬ’ การเติบโตของเครือข่าย และแนวโน้มเชิงเทคนิคที่แข็งแกร่ง กำลังหนุนให้อีเธอเรียมฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คำถามที่ตามมาคือ ETH จะสามารถทะลุแนวต้าน 2,500 ดอลลาร์ได้หรือไม่ และเปิดประตูสู่ระดับราคาสูงกว่าเดิมในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0