อินเดียกดดันนักลงทุนคริปโตด้วยภาษี 30% - แพลตฟอร์มแห่ร้องขอลด TDS เหลือ 0.01%

ตลาดคริปโตในอินเดียกำลังเผชิญกับความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลอินเดียประกาศใช้นโยบายภาษีที่เข้มงวด โดยมีการเรียกเก็บภาษีจากกำไรของการซื้อขายสูงถึง 30% และหักภาษี ณ ที่จ่าย (TDS) อีก 1% สำหรับธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 10,000 รูปี (ประมาณ 18,000 บาท) รวมถึงไม่อนุญาตให้นำขาดทุนมาหักลดยอดรวม ทำให้ผู้ค้ารู้สึกถูกกดดันหนักจากมาตรการเหล่านี้ ส่งผลให้ทั้งผู้ลงทุนและแพลตฟอร์มซื้อขายจำนวนมากเริ่มออกมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปภาษีในอุตสาหกรรมคริปโต

ราจี คาปูร์ ประธานสมาพันธ์บล็อกเชนอินเดีย แสดงความเห็นว่า การมี ‘กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน’ ยังดีกว่าความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายในแวดวงคริปโตยังต้องการแนวทางปฏิบัติที่ ‘ยืดหยุ่นมากขึ้น’ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มซื้อขายที่เรียกร้องให้ปรับลด TDS จาก 1% เหลือเพียง 0.01% และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถนำผลขาดทุนไปหักลดยอดกำไรได้

แม้จะมีแรงกดดันอย่างหนัก รัฐบาลอินเดียยังคงตอบสนองอย่างระมัดระวัง โดยให้เหตุผลว่า การผ่อนปรนกฎภาษีอาจนำไปสู่การหลีกเลี่ยงภาษีและอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น สำนักงานสรรพากรอินเดียระบุว่า ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2024 มีผู้ซื้อขายคริปโตหลายพันรายไม่แสดงรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัล และได้รับหนังสือแจ้งเตือนตามกฎหมาย โดยรัฐบาลสงสัยว่าผู้ค้าเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากช่วงต้นที่ยังไม่มีข้อกำหนดในการรายงานเพื่อลักหลบภาษี

ซูมิต คุปตา ผู้ร่วมก่อตั้ง CoinDCX แนะนำว่า ผู้ใช้คริปโตทุกคนควรรายงานรายได้จากทุกแหล่ง รวมถึงผลตอบแทนจากการแอร์ดรอป พร้อมระบุว่า “ยังไม่สายเกินไปที่จะใช้ช่องทางการยื่นแบบภาษีย้อนหลังเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง”

ระบบภาษีคริปโตของอินเดียในปัจจุบันมีจุดเด่นอยู่ที่ภาษี TDS 1% สำหรับธุรกรรมที่เกิน 10,000 รูปี อัตราภาษี 30% สำหรับกำไรจากการซื้อขาย และการไม่อนุญาตให้หักล้างผลขาดทุน นโยบายที่เข้มงวดเหล่านี้ไม่เพียงกระตุ้นให้นักลงทุนท้องถิ่นลังเลที่จะลงทุนต่อ แต่ยังทำให้บางแพลตฟอร์มต่างชาติถอนตัวออกจากตลาดอินเดียแล้วด้วย

หนึ่งในเหตุผลหลักที่รัฐบาลอินเดียยังคงยึดท่าทีเข้มงวด คือความกังวลด้านความปลอดภัยจากการใช้คริปโตในการก่ออาชญากรรม ล่าสุด สำนักงานสอบสวนกลางอินเดีย(CBI) จับกุม ราฮุล อาโรรา ผู้เกี่ยวข้องในคดีหลอกลวงระหว่างประเทศ พร้อมยึดคริปโตมูลค่า 327,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) นอกจากนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ยังได้บุกค้นสถานที่ถึง 60 จุดทั่วประเทศเพื่อขยายผลการสอบสวนคดีฉ้อโกง ‘GainBitcoin’ ที่มีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ พร้อมอายัดทรัพย์สินได้กว่า 2.9 ล้านดอลลาร์

CBI ยังได้พัฒนาระบบติดตามธุรกรรมคริปโตของตนเอง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญ ‘ด้านความปลอดภัย’ เหนือกว่าการส่งเสริม ‘นวัตกรรมเทคโนโลยี’ ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ต้องการแบนคริปโตโดยสิ้นเชิง แต่ต้องการใช้ท่าทีระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจ

‘ความคิดเห็น’: นักวิเคราะห์มองว่าจนกว่าจะมีการวางกรอบกฎหมายที่มีความชัดเจนและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในตลาด คงเป็นเรื่องยากที่อินเดียจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตได้อย่างแท้จริง