ทีมพัฒนาเหรียญ ชิบะอินุ(Shiba Inu) ได้เผยแพร่คู่มือแนะนำการใช้งานโทเคนหลักในระบบนิเวศของ ชิบาเรียม(Shibarium) ฉบับใหม่ โดยเนื้อหาในคู่มือฉบับนี้เน้นอธิบายบทบาทและกรณีการใช้งานจริงของโทเคนหลัก 4 รายการคือ ชิบะ(SHIB), โบน(BONE), ลีช(LEASH) และทรีต(TREAT) ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจโครงสร้าง ‘การเงินไร้ศูนย์กลาง’ (DeFi) ของโครงการชิบะอินุ
เมื่อวันที่ 24 บัญชีอย่างเป็นทางการ ‘Shibarium Updates(@Shibizens)’ บนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ได้อธิบายว่าโทเคนแต่ละตัวในระบบจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์ประกอบที่แตกต่างกันของอนาคตแบบกระจายอำนาจ
ตามเอกสารที่เผยแพร่ ชิบะ(SHIB) ถือเป็น ‘สกุลเงินหลัก’ ภายในระบบนิเวศ และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการนำไปใช้งาน ความสามารถในการชำระเงินของ SHIB ครอบคลุมกว่าหลายพันร้านค้าทั่วโลกผ่านผู้ให้บริการ เช่น บิทเพย์(BitPay), ไบนานซ์เพย์(Binance Pay) และนาวเพย์เมนต์(NOWPayments) อีกทั้งยังถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมและมีการถือครองกว้างขวางที่สุดในระบบ SHIB นอกจากนี้ SHIB ยังมีโครงสร้างลดปริมาณหมุนเวียนผ่านการ ‘เผาเหรียญ’ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยเพิ่มความ *หายาก* ของโทเคนเมื่อเวลาผ่านไป 🌐 ความเห็นจากทีมงานคือ “SHIB คือหัวใจของระบบนิเวศ”
โบน(BONE) เป็นโทเคนดั้งเดิมของระบบ ชิบาเรียม ซึ่งทำหน้าที่เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมและกลไกการกำกับดูแล โครงข่ายหลักของชิบาเรียม เช่นการเรียกใช้สมาร์ตคอนแทรกต์ จะไม่สามารถทำงานได้หากขาด BONE ผู้ใช้งานสามารถใช้ BONE เพื่อใช้สิทธิออกเสียงในโครงการ ด็อกกี้ DAO (Doggy DAO) อีกทั้ง BONE ยังมีจำนวนจำกัดเพียง 250 ล้านโทเคนเท่านั้น ทำให้มีคุณค่าในฐานะ ‘สินทรัพย์หายาก’ ในระบบนิเวศนี้ รางวัลสำหรับผู้ตรวจสอบและผู้มอบหมายในระบบเครือข่ายก็จ่ายด้วย BONE โดยทีมงานระบุว่า “BONE คือขุมพลังของเครื่องยนต์ หากไม่มี BONE ก็ไม่มีชิบาเรียม”
ลีช(LEASH) เป็นโทเคนที่เน้นด้าน *สิทธิพิเศษระดับพรีเมียม* และความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนการออกที่จำกัดเพียง 107,646 โทเคน LEEASH จึงถูกวางตำแหน่งให้เป็นตั๋วผ่านพิเศษสำหรับการเข้าร่วมโปรเจกต์รุ่นแรก การขายที่ดิน และการเข้าถึงฟีเจอร์ VIP ในหลายโปรเจกต์ โดยถูกเปรียบเสมือน ‘Backstage Pass’ ของระบบนิเวศ SHIB
สำหรับ ทรีต(TREAT) เป็นโทเคนที่เพิ่งเปิดตัวภายในระบบนิเวศ โดยมุ่งเน้นการใช้สำหรับ *สิ่งจูงใจและรางวัล* โดย TREAT จะรองรับทั้งระบบการวางเดิมพัน (staking), รางวัลสำหรับผู้ให้บริการสภาพคล่อง และระบบรางวัลอื่นๆ ที่เชื่อมโยงการใช้งานระหว่างผู้ใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในระบบ TREAT ยังถูกวางแผนใช้งานเพิ่มเติมในแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ใหม่ๆ และในแพลตฟอร์มที่ขยายออกไปในอนาคต โดยทีมงานสรุปว่า “TREAT คือกาวที่เชื่อมโยงทุกผลิตภัณฑ์ภายในระบบเข้าหากัน”
การเปิดเผยรายละเอียดของโทเคนทั้ง 4 ประเภทนี้ ตอกย้ำถึงการพัฒนาเชิงลึกของโครงการ ชิบะอินุ จากเหรียญมีมแบบดั้งเดิม สู่ระบบนิเวศทางการเงินไร้ศูนย์กลางที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น โดยแนวทางของ SHIB, BONE, LEASH และ TREAT เป็นเครื่องสะท้อนถึงอนาคตของโลกคริปโตที่ระบบนิเวศมีส่วนขับเคลื่อนจากโทเคนหลายมิติ 💡
ความคิดเห็น 0