ราคา *บิตคอยน์(BTC)* ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 10% ภายในเวลาเพียง 3 วัน โดยล่าสุดแตะระดับ 108,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.03 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดระยะสั้นที่ 98,400 ดอลลาร์ (ราว 13.69 ล้านบาท) ส่งผลให้แนวรับที่สำคัญกลับคืนมาอีกครั้ง ราคาปัจจุบันเข้าใกล้จุดสูงสุดตลอดกาลที่ 112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.56 ล้านบาท) สะท้อนถึงแรงผลักดันเชิงบวกที่กำลังกลับสู่ตลาดอีกครั้ง
คำถามที่เกิดตามมาคือ *บิตคอยน์สามารถพุ่งขึ้นได้มากกว่า 50% ภายในไม่กี่วันหรือไม่*? หลายฝ่ายมองว่าสัญญาณเทคนิคล่าสุดเป็นบวก โดยในกราฟรายวัน บิตคอยน์กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในรูปแบบ "แฟล็กขาขึ้น" (*bull pennant*) ซึ่งเป็นแพตเทิร์นในเชิงบวกที่ได้รับความนิยมในตลาดขาขึ้น โดยราคามักจะทะลุกรอบบนหลังจากการพักฐานในกรอบแคบๆ
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน *นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังอย่าง "เยลเล่(Jelle)"* ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า *บิตคอยน์ยืนยันการกลับเข้าสู่แนวรับสำคัญ และตอนนี้อยู่ภายในขอบเขตของรูปแบบแฟล็กขาขึ้น* เขายังเสริมว่า หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.29 ล้านบาท) ได้ ก็มีแนวโน้มจะ *ทะยานขึ้นไปสู่ระดับเป้าหมายทางเทคนิคที่ 165,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22.93 ล้านบาท* ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันถึง 54%
นอกจากนี้ ข้อมูล *ออนเชน* ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงในการถือครองของนักลงทุนระยะยาว โดยจำนวนบิตคอยน์ที่ไหลเข้าสู่กระดานเทรดลดลงจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี แสดงให้เห็นว่าผู้ถือเหรียญจำนวนมากยังไม่เร่งขายในช่วงราคาขาขึ้นรอบนี้
จากปัจจัยทางเทคนิคประกอบกับแนวโน้มข้อมูลออนเชน ทำให้มีการวิเคราะห์กันว่า *มีโอกาสสูงที่บิตคอยน์จะปรับตัวขึ้นต่อในระยะสั้น* อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังความเป็นไปได้ของการ ‘พักฐาน’ หลังจากราคาขึ้นแรง โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนแนวโน้ม ทั้งนี้ ความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจเกี่ยวข้องกับ *ทรัมป์* รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคก็ควรถูกนำมาพิจารณาร่วมด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น 0