ริปเปิล(XRP) กลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงอีกครั้ง หลังจากที่ความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการเกิด ‘โกลเดนครอส’ ที่อาจส่งสัญญาณขาขึ้น ล้มเหลวไม่เป็นผล แม้ก่อนหน้านี้จะมีสัญญาณบวกเล็กน้อยในระยะสั้น แต่ข้อมูลทางเทคนิคยังคงสะท้อนบรรยากาศเชิงลบในตลาดอย่างชัดเจน
โกลเดนครอสคือภาวะที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งปกติจะถูกมองเป็นสัญญาณบวกต่อราคา แต่ในกรณีของริปเปิล การเคลื่อนไหวระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 9 วัน และ 21 วันกลับตัดลงสวนทางกัน ทำให้เกิดรูปแบบ ‘เดดครอส’ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่อ่อนแรงลง ในระยะนี้ XRP จึงถูกจำกัดอยู่ในช่วงราคา 2.14–2.19 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,975–2,984 บาท) และเผชิญแนวต้านที่ระดับ 2.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,058 บาท)
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ริปเปิลซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.16 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,002 บาท) ลดลง 1.09% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้ระหว่างวันจะพยายามดีดตัวขึ้นไปแตะ 2.23 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,097 บาท) แต่สุดท้ายแรงซื้อไม่สามารถผลักดันราคาให้ทรงตัวในแดนบวกได้
ด้านปริมาณการซื้อขายก็ชะลอตัวลงเช่นกัน โดยมูลค่าการซื้อขายของ XRP ในช่วงเวลาเดียวกันลดลง 3.81% มาอยู่ที่ราว 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการขาดแรงสนับสนุนในการปรับตัวขึ้น หาก XRP ต้องการทะลุแนวต้านที่ 2.20 ดอลลาร์ และยืนเหนือบริเวณ 2.30–2.35 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,197–3,268 บาท) การเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของปริมาณซื้อขายจะเป็น ‘คำ’ ที่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนริปเปิลยังคงมั่นคง แม้จะอยู่ในภาวะตลาดหมี จากรายงานล่าสุด พบว่า *กว่า 80% ของผู้ถือ XRP ยังคงอยู่ในสถานะกำไร* ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าเหตุใดแรงขายจึงยังไม่มากนักในช่วงนี้ ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ระบุว่า “หากปัจจัยพื้นฐานอย่างการใช้งานบนเครือข่ายหรือปริมาณการซื้อขายกลับมาเพิ่มขึ้น อาจจุดชนวนให้ราคาฟื้นตัวในรอบถัดไป”
แม้ว่าชาร์ตราคาในตอนนี้จะเอนเอียงไปในทางลบ แต่ด้วยการที่จุดรับทางเทคนิครายสำคัญยังไม่ถูกทำลาย และความรู้สึกของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง ตลาดจึงยังมีโอกาสกลับตัวในภายหลัง ทั้งนี้ ทิศทางต่อไปของ XRP จะขึ้นอยู่กับความชัดเจนของปริมาณซื้อขายและแรงเคลื่อนไหวภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ความคิดเห็น 0