แม้ความขัดแย้งทางกฎหมายระหว่างริปเปิล(XRP) และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) จะยังคงยืดเยื้อ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดกลับเพิ่มขึ้น โดยผลวิเคราะห์จากบริษัทด้านข้อมูลอย่างแซนติเมนต์(Santiment) ระบุว่า อัตราการกล่าวถึงในเชิงบวกเกี่ยวกับริปเปิลบนสื่อสังคมออนไลน์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 วัน แซงหน้าทั้งบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ในแง่ของความเชื่อมั่นจากชุมชน
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) มีรายงานว่าคดีความระหว่าง SEC และริปเปิลยังคงยืดเยื้อออกไปอีก หลังผู้พิพากษาแอนนาลิซา ตอร์เรส ปฏิเสธคำร้องร่วมระหว่างทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับ ‘คำพิพากษาเป็นนัย (indicative ruling)’ ซึ่งก่อนหน้านี้ริปเปิลเคยเสนอข้อตกลงยอมความมูลค่าประมาณ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 501 พันล้านวอนเกาหลีใต้) แต่ด้วยคำตัดสินล่าสุด ความหวังในการยุติคดีก่อนเวลาจึงถูกลดทอนลง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในชุมชนผู้ถือ XRP ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโต
แซนติเมนต์อธิบายว่า “ในขณะที่มุมมองเชิงบวกต่อบิตคอยน์และอีเธอเรียมในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยเริ่มลดลงนั้น ความสนใจในริปเปิลกลับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน” และเสริมว่า “อัตราการกล่าวถึงในเชิงบวกเมื่อเทียบกับเชิงลบของ XRP พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุด ณ วันที่ 17” ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงพลังของเครือข่ายชุมชนที่ยังเหนียวแน่นและมีบทบาทสำคัญต่อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
ในขณะที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.48 พันล้านวอน) รับอานิสงส์จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลาย ส่วนอีเธอเรียมก็ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ใกล้ระดับ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 333 ล้านวอน) อย่างมั่นคง ขณะที่ราคาของ XRP กลับปรับลดลงราว 3-4% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ลดลงต่ำกว่าระดับ 2.1 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 292 วอน) ซึ่งสาเหตุหลักมาจากผลกระทบของคำตัดสินที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อริปเปิลโดยตรง
แม้ราคาจะปรับลดลง แต่ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ริปเปิลยังประกาศข่าวดีเกี่ยวกับการได้รับการนำไปใช้งานโดยผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐ ซึ่งสร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุนได้บางส่วน
ข้อมูลจากแซนติเมนต์และการเคลื่อนไหวในชุมชน ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้ริปเปิลจะเผชิญกับความ ‘ไม่แน่นอนทางกฎหมาย’ และ ‘ความผันผวนของราคา’ แต่ผลกระทบในตลาดยังคงมี ‘ความสำคัญ’ ความเชื่อมั่นที่เหนียวแน่นจากชุมชนอาจกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้ XRP กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในอนาคต
ความคิดเห็น 0