แม้ตลาดคริปโตโดยรวมจะยังซบเซา แต่ริปเปิล(XRP) กลับเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยราคาดิ่งลงเกือบ 4% ลงมาแตะระดับประมาณ 2.09 ดอลลาร์ (ราว 2,905 บาท) สาเหตุเบื้องหลังการร่วงนี้คือ ‘ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย’, ‘การใช้งานเครือข่ายที่ลดลง’ และ ‘ภาวะซึมเศร้าของนักลงทุน’ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นใน XRP อ่อนแรงลงชัดเจน
แรงกดดันหลักคือคดีระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) กับบริษัทริปเปิล ปมการเสนอข้อตกลงยุติคดีมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 695 ล้านบาท) โดยเมื่อวันที่ 24 ผู้พิพากษาอลิซา ตอร์เรสได้ปฏิเสธคำร้องให้พิจารณาข้อตกลงล่วงหน้า และเลื่อนการตัดสินออกไปจนกว่ากระบวนการจะสิ้นสุดลง ซึ่งถือเป็น *ข่าวร้าย* สำหรับนักลงทุนที่หวังการยุติคดีอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ปริมาณธุรกรรมในเครือข่ายริปเปิลก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของ XRP Scan พบว่า ยอดธุรกรรมภายในวันเดียวลดฮวบจาก 1.83 ล้านรายการ เหลือเพียง 277,000 รายการ หรือคิดเป็นการลดลงถึง 84% ปรากฏการณ์นี้ยิ่งทำให้แนวโน้มราคาเป็นลบ โดยเฉพาะเมื่อเผชิญแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (วาฬ) ซึ่งเปรียบเสมือน ‘แรงกดดันด้านอุปทาน’ ที่ส่งผลรุนแรงต่อราคา
อีกด้านหนึ่ง ความหวังเรื่องการอนุมัติผลิตภัณฑ์ ETF ที่อิงกับ XRP ก็เริ่มสั่นคลอน แม้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน ความเป็นไปได้ในการได้รับอนุมัติจะสูงถึง 95% แต่ตัวเลขล่าสุดในตลาดคาดการณ์ระบุว่า ความน่าจะเป็นลดลงเหลือเพียง 76% โดย *ความล่าช้าจากศาล* เป็นตัวแปรหลักที่เร่งความไม่แน่นอน และดันให้นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะชะลอการลงทุน
เมื่อรวมกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ประกอบกับแรงขายทำกำไร ทำให้บิตคอยน์(BTC) และเหรียญหลักอื่น ๆ ร่วงตามกัน โดยตลาดทั้งหมดกำลังอ่อนแอ และ XRP กำลังเผชิญกับแรงกดดันซ้อนหลายทาง
ด้านเทคนิค นักวิเคราะห์พบว่า XRP เพิ่งหลุดจากกราฟ ‘ธงขาขึ้น’ ซึ่งมักเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่การหลุดจากรูปแบบนี้สะท้อนการเปลี่ยนแนวโน้มอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันดัชนี MACD ปรับตัวลงต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงความเสี่ยงในระยะสั้น ‘ความคิดเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญบางรายชี้ว่า ราคา XRP อาจไหลลงสู่ระดับ 1.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,641 บาท) ได้ในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หากความต้องการจากสถาบัน หรือแนวทางของคดีเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ก็ยังมีโอกาสที่ XRP จะฟื้นตัวได้เช่นกัน
ความคิดเห็น 0