เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุมชายสองคนในบรูคลิน ฐานใช้ข้อมูลวงในจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เพื่อการซื้อขายโดยมิชอบ ทำกำไรโดยรวมกว่า 1.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19.8 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาอาจเผชิญโทษจำคุกสูงสุดถึง 25 ปี
เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานรัฐบาลกลางเปิดเผยว่าผู้ถูกตั้งข้อหา ได้แก่ จัสติน เฉิน วัย 31 ปี และจุน เจิน วัย 29 ปี ทั้งคู่ไม่ได้เป็นพนักงานของ SEC โดยตรง แต่ทำงานให้กับ EdgarAgents.com บริษัทเอกชนที่ให้บริการจัดทำและส่งเอกสารทางการเงินเข้าสู่ระบบ EDGAR ของ SEC ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายดำเนินงานและหัวหน้าฝ่ายจัดหน้าเอกสาร ตามลำดับ
รายงานระบุว่า ทั้งสองใช้ ‘ข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ’ จากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เช่น เพอร์เพิลอินโนเวชั่น, ออนดาสโฮลดิงส์, ซิกมาทรอน และไซน์ไดสปอร์ต นำไปซื้อขายหุ้นล่วงหน้า แล้วรีบขายหลังจากข่าวการควบรวมกิจการถูกเผยแพร่ ทำให้ได้กำไรจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งตามข้อมูลของอัยการรัฐบาลกลาง พบว่าพวกเขาร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องในช่วงมีนาคมถึงมิถุนายน 2025 และทำกำไรจากข้อตกลงที่ตรงกันอย่างพอดีเกินกว่าความบังเอิญ
ทั้งนี้ ทั้งสองถูกจับโดย FBI ที่สนามบินนานาชาติ JFK ขณะเตรียมขึ้นเครื่องเดินทางไปฮ่องกงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปัจจุบันทั้งคู่ถูกควบคุมตัวโดยไม่ได้รับการประกันตัว
มาร์ก เพเกิล อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ SEC ให้ ‘ความคิดเห็น’ เกี่ยวกับคดีนี้ โดยชี้แจงว่า ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ทำงานให้กับ SEC โดยตรง และเหตุการณ์นี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวองค์กรโดยตรง ซึ่งตอกย้ำให้เห็นความเข้าใจผิดในที่สาธารณะเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทคู่สัญญาภายนอก
กรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีความตื่นตัวต่อการละเมิดกฎระเบียบ SEC โดยเฉพาะมาตรา 10b5-1 ซึ่งอนุญาตให้ผู้บริหารวางแผนขายหุ้นล่วงหน้า แต่กลับถูกใช้เพื่อปกปิดการใช้ข้อมูลวงใน ‘คำ’ ทั้งนี้ รัฐบาลกลางได้ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการควบคุมข้อมูลที่จำกัดการเข้าถึง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสในลักษณะนี้
อีกคดีที่ได้รับความสนใจในเวลาเดียวกันคือกรณีของ เทอเรนซ์ ไฟเซอร์ อดีต CEO ของบริษัทออนแทร็ก และศิษย์เก่าของไมเคิล มิลเกน อดีตเจ้าพ่อตราสารหนี้ เขาถูกพิพากษาให้จำคุก 3 ปี 6 เดือน พร้อมปรับ 5.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องคืนกำไรกว่า 17.63 ล้านดอลลาร์ หลังศาลตัดสินว่าเขาใช้ข้อมูลลับทางธุรกิจในการขายหุ้นก่อนเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ แม้พยายามใช้มาตรา 10b5-1 เป็นเครื่องมือป้องกันก็ตาม
‘ความคิดเห็น’ ในวงการชี้ว่า คดีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำเอกสารหรือเข้าถึงข้อมูลก่อนเผยแพร่ ก็อาจตกเป็นเป้าหมายของการเฝ้าระวังเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทคริปโตจำนวนมากเริ่มเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างจริงจัง จึงเน้นย้ำถึง ‘คำ’ ความสำคัญในการรักษาจริยธรรมและโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลภายในองค์กรให้มากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0