ราคาของ *ไพเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* ร่วงลงแตะระดับ 0.49 ดอลลาร์ (ประมาณ 681 บาท) ทำให้เกิดความวิตกในหมู่ผู้ถือครองโทเคน อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญในตลาดมองว่าความเป็นไปได้ที่ราคาจะลดลงต่ำกว่า 0.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 556 บาท) นั้น ‘มีน้อย’ โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนเสถียรภาพของราคาคือการที่ทีมพัฒนา ‘Pi Core Team’ ควบคุมปริมาณโทเคนมากถึง 90% ของอุปทานทั้งหมด
ดร. อัลท์คอยน์(Dr Altcoin) นักวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน แสดงความคิดเห็นว่า หากราคา *ไพ(Pi)* ต่ำกว่า 0.40 ดอลลาร์ โครงการอาจร่วงจากอันดับ 30 สุดยอดสินทรัพย์คริปโตตามมูลค่าตลาด ซึ่งจะกระทบต่อ *ภาพลักษณ์แบรนด์* และความไว้วางใจจากชุมชน “แต่ทีม Pi มีศักยภาพในการดำเนินมาตรการเชิงกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้น” เขากล่าว พร้อมอ้างถึงกรณีในอดีตที่ทีมเคยควบคุมความเร็วการปลดล็อกโทเคน และการประกาศอัปเดตระบบนิเวศเพื่อสร้างเสถียรภาพทางอารมณ์ของนักลงทุน
จากแนวโน้มในขณะนี้ ราคาของไพน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 0.40–0.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 556–973 บาท) ไปจนถึงเดือนสิงหาคม โดยคาดว่าอุปทานใหม่จะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคามีทิศทางเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัจจัยกระตุ้นเช่นการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มซื้อขายรายใหญ่หรือพัฒนาการในเมนเน็ต ความเป็นไปได้ของการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้นก็จะยังมีข้อจำกัด
ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของราคาไม่ได้เป็นเพียงปัญหาด้านตัวเลข เพราะยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของพันธมิตร นักพัฒนา และนักลงทุนระยะแรกอีกด้วย หากแนวโน้มดังกล่าวยังดำเนินต่อไป อาจบั่นทอน *ชื่อเสียง* ของทั้งโครงการ ส่วนหนึ่งของ *การอยู่รอด* ของ Pi ขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมในการควบคุมอุปทาน ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางเทคนิค แต่เป็น ‘รากฐาน’ ของโครงการเลยทีเดียว
กระนั้น ก็ยังมีความเสี่ยงที่ครอบคลุม เช่น การปลดล็อกโทเคนราว 276 ล้าน Pi ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ปัญหาความล่าช้าในการตรวจสอบตัวตน(KYC) และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยังไม่เป็นไปตามแผน โดยเฉพาะความล่าช้าในการเปิดตัวเมนเน็ต อีกทั้ง ‘โครงสร้างแบบรวมศูนย์’ ในปัจจุบันก็ยังเป็นอุปสรรคต่อการจดทะเบียนในตลาดเทรดแบบรวมศูนย์(CEX) และอาจขัดแย้งกับอุดมการณ์ ‘กระจายศูนย์’ ของโครงการเอง
‘อนาคต’ ของไพเน็ตเวิร์กจะถูกตัดสินโดยความเชื่อมั่นของตลาดและการตัดสินใจของทีมพัฒนา การปกป้องราคาไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการกำหนดความสำเร็จ แต่การดำเนินตามแผนงานอย่างชัดเจน รวมถึงความสามารถในการสร้างความไว้วางใจกับชุมชน ถือเป็น *หัวใจสำคัญ* ของการเอาชนะความท้าทายในระยะยาว
ความคิดเห็น 0