การเปลี่ยนกองทุนคริปโตของเกรย์สเกล(Grayscale) เป็น ETF ต้องหยุดชะงักอย่างกะทันหัน หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ประกาศ *ระงับชั่วคราว* การอนุมัติที่เพิ่งได้รับไปเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงและการจดทะเบียนซื้อขายของกองทุนดิจิทัลขนาดใหญ่ (GDLC) ถูกเลื่อนออกไป สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่หน่วยงานกำกับฯ กำลังอยู่ในระหว่างวางแนวทางกำกับดูแลตลาด ETF คริปโต ซึ่งได้สร้าง *ความสับสนในตลาด* และเพิ่มความกังวลในหมู่นักลงทุน
เมื่อวันที่ 1 ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กอาเคา(NYSE Arca) เพิ่งได้รับการอนุมัติเปลี่ยนแปลงกฎสำหรับการเปลี่ยนกองทุน GDLC ไปสู่ ETF ซึ่งทำให้หลายฝ่ายคาดว่าจะเริ่มมีการซื้อขายในเร็ววัน ตัวกองทุนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลหลักหลายตัว เช่น บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และคาร์ดาโน(ADA) นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการอนุมัติครั้งนี้จะกลายเป็นจุดทดสอบสำหรับ ETF ที่สร้างจากอัลท์คอยน์รายตัวในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน SEC ได้เผยแพร่จดหมายที่ลงนามโดยเจ. แมทธิว เดเรซเดอร์นิเยร์(J. Matthew DeLesDernier) รองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย ซึ่งระบุว่าจะมีการ *ทบทวน* การตัดสินใจของหน่วยงานภายในที่ได้รับมอบหมายให้อนุมัติการเปลี่ยนกองทุนครั้งนี้ ทำให้ GDLC ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น ETF ได้ในทันที
เจมส์ เซย์ฟาร์ต(James Seyffart) นักวิเคราะห์ด้าน ETF ให้ความเห็นว่า การประสานงานที่ไม่สอดคล้องภายใน SEC หรือกรอบกำกับดูแลที่ยังไม่ลงตัวอาจเป็นสาเหตุของการตัดสินใจครั้งนี้ และตั้งข้อสังเกตว่า “บางฝ่ายใน SEC อาจยังไม่พร้อมอนุมัติการเปลี่ยนรูปแบบกองทุน” พร้อมระบุว่ากองทุน GDLC อาจมีปัญหาเชิงโครงสร้างหรือยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างชัดเจน เขายังเสริมอีกว่า SEC อาจหลีกเลี่ยงการอนุญาตในลักษณะนี้จนกว่าจะวางเกณฑ์การจดทะเบียน ETF คริปโตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
*ความคิดเห็น* นี้สอดคล้องกับรายงานของเอลีเนอร์ เทเร็ตต์(Eleanor Terrett) ผู้สื่อข่าวจาก Fox Business ซึ่งระบุว่า SEC ยังอยู่ในขั้นต้นของการจัดทำหลักเกณฑ์สำหรับ ETF ที่อิงกับโทเคน และในอนาคตอาจใช้ปัจจัยอย่างมูลค่าตลาด ปริมาณการซื้อขาย และสภาพคล่องเป็นฐานในการพิจารณา
อีริค บัลชูนา(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg สนับสนุนมุมมองดังกล่าว โดยกล่าวว่า “SEC ต้องการวางมาตรฐานที่ชัดเจนสำหรับการจดทะเบียน ETF ที่มีสินทรัพย์อิงจากคริปโต ก่อนจะอนุมัติให้กับอัลท์คอยน์ต่างๆ” เขาและเซย์ฟาร์ตเห็นพ้องกันว่าการระงับในครั้งนี้น่าจะเป็นแค่การ *เลื่อนออกไปตามสถานการณ์* มากกว่าจะเป็นการยกเลิกโดยถาวร
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเชื่อว่า เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทั้งตลาด ETF คริปโต โดยเฉพาะผู้จัดการกองทุนรายอื่นที่อยู่ระหว่างการเตรียมเปลี่ยนกองทุนแบบเดียวกันไปสู่รูปแบบ ETF ซึ่งอาจต้องเผชิญกับความ *ไม่แน่นอนมากขึ้น* และทำให้การเข้าสู่ตลาดต้องล่าช้า
สถานการณ์ของตลาด ETF คริปโตในสหรัฐยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก ขึ้นอยู่กับแนวทางนโยบายของทรัมป์และผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมาถึง ผู้เล่นในตลาดต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า การระงับครั้งนี้เป็นเพียง *ขั้นตอนตามกระบวนการ* หรือส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายในระดับลึกกันแน่
ความคิดเห็น 0