ยูริเอน ทิมเมอร์(Jurrien Timmer) ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์มหภาคของฟิเดลิตี แอสเซท แมเนจเมนต์ แสดงความเห็นว่า *บิตคอยน์(BTC)* อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบการเงินใหม่ของโลก หากสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงในระยะยาว เขาระบุว่า ‘สินทรัพย์ที่ไม่ยึดโยงกับดอลลาร์’ รวมถึง *บิตคอยน์* และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้
เมื่อวันที่ 24 ทิมเมอร์โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า หากดัชนีเงินดอลลาร์เข้าสู่ขาลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์อาจเอื้อให้หุ้นในตลาดนอกสหรัฐฯ สินค้าโภคภัณฑ์ และ *บิตคอยน์* มีความได้เปรียบเพิ่มขึ้น แม้เขาจะยอมรับว่า *บิตคอยน์* กำลังเผชิญความผันผวนระยะสั้น แต่ชี้ว่านี่อาจเป็นเพียงการพักฐานชั่วคราวเท่านั้น
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงกว่า 10% เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ถือเป็นระดับที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ริชาร์ด นิกสัน ประกาศเลิกผูกค่าเงินกับทองคำ ขณะที่เงินยูโรพุ่งขึ้นเกือบ 14% ในปีนี้ และเงินปอนด์อังกฤษก็แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
สาเหตุหลักของการอ่อนค่าของดอลลาร์เกิดจากความตึงเครียดด้านการค้าโลก รายจ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐ และคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในอนาคต ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็น ‘เงินดอลลาร์’ มีเสน่ห์ลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปหาทางเลือกอย่าง *ทองคำ* และ *บิตคอยน์*
ทิมเมอร์ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ทองคำ’ กับ ‘อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง’ (real interest rates) ว่าอ่อนตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาชี้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณของ ‘การเปลี่ยนแปลงระบบ’ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ประมาณ 3 ปีก่อน
แม้ในปีนี้ *ทองคำ* จะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า *บิตคอยน์* อย่างชัดเจน แต่ในมุมมองของทิมเมอร์ เขาเชื่อว่าหลังจากปี 2025 *บิตคอยน์* อาจกลายเป็นผู้รับไม้ต่อในฐานะสินทรัพย์ที่มีบทบาทคล้ายกับทองคำในระบบการเงินใหม่นี้
โดยเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา *บิตคอยน์* ทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 113,220 ดอลลาร์ (ราว 1.56 ล้านบาท) ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 112,000 ดอลลาร์ (ราว 1.55 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมในตลาดบิตสแตมป์เพียงราว 2% เท่านั้น
*ความคิดเห็น*: การวิเคราะห์ของทิมเมอร์ชี้ให้เห็นภาพที่กว้างขึ้นว่า เราอาจกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบการเงินที่นำโดยดอลลาร์ ไปสู่ยุคที่ *บิตคอยน์* และสินทรัพย์ดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นในระดับโลก ไม่ใช่แค่ร้านค้าความเสี่ยง แต่คือ ‘แหล่งเก็บมูลค่า’ ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0