ริปเปิล(XRP) ปิดฉากคดี SEC จุดกระแสทฤษฎีสมคบคิด พุ่งเป้าสู่ยุทธศาสตร์ธนาคารกลาง

การต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานระหว่างริปเปิล(XRP)กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) กำลังก้าวเข้าสู่เฟสใหม่ เมื่อกระแส ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ ที่ว่า การฟ้องร้องทั้งหมดเป็น ‘การจัดฉาก’ เริ่มจุดประเด็นถกเถียงในวงการคริปโต ซึ่งนักกฎหมายหลายรายต่างก็รีบออกมา ‘โต้แย้ง’ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าริปเปิลมีแผนผลักดันให้ XRP กลายเป็นเงินสกุลหลักของระบบการเงินโลก

เจสซี นักวิเคราะห์จาก Apex Crypto Consulting ให้ความเห็นว่า XRP อาจมีศักยภาพเป็นทางเลือกแทนระบบ SWIFT สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยอ้างอิงจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของริปเปิลกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)และธนาคารกลางรายใหญ่ พร้อมกล่าวว่า การที่บริษัทสามารถขยายเครือข่ายทั่วโลกได้แม้อยู่ในระหว่างคดี อาจสะท้อนถึงยุทธศาสตร์ควบคุมราคาตลาด เขาระบุว่า “การฟ้องร้องอาจเป็นเครื่องมือชะลอราคาหรือป้องกันการเติบโตอย่างรวดเร็วเกินไป”

"ความคิดเห็น" ของเจสซีได้รับการตอบโต้จากบิล มอร์แกน(Bill Morgan) ทนายความด้านคริปโตจากออสเตรเลีย ซึ่งระบุผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียว่า “ผมไม่เคยเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าคดีนี้ถูกจัดฉาก” เขาเสริมว่าการยื่นคำร้องร่วมสองครั้งล่าสุดของทั้งสองฝ่ายทำให้คดีล่าช้าไปกว่า 3 เดือนโดยไม่จำเป็น พร้อมชี้ว่าการที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีอะไรที่ดูเหมือน ‘แผนการ’

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้แพลตฟอร์ม X(เดิมคือ Twitter) หลายรายก็แสดงท่าทีสงสัยว่า ริปเปิลจะยอมแบกรับความไม่แน่นอนเป็นเวลาหลายปี รวมถึงค่าใช้จ่ายเชิงกฎหมายที่อาจสูงถึงหลักพันล้านบาท เพียงเพื่อจะทำให้ทั้งหมดดูเหมือนสมจริง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แนวคิด ‘คดีจัดฉาก’ ดูห่างไกลจากความจริง

จุดที่ทำให้ความสนใจพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง คือการปรากฏตัวของอาเธอร์ บริโต(Arthur Britto) ผู้ร่วมก่อตั้งริปเปิล ซึ่งไม่ได้เปิดหน้าในที่สาธารณะบ่อยนัก การปรากฏตัวครั้งนี้เกิดขึ้นควบคู่กับรายงานที่ว่า ริปเปิลกำลังยื่นขอใบอนุญาตธนาคารและเตรียมยื่นขอบัญชีมาสเตอร์กับธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed) ซึ่งสร้างความตื่นตัวในหมู่นักลงทุนว่าอาจมี ‘ยุทธศาสตร์ระดับชาติ’ กำลังซุ่มพัฒนาอยู่เบื้องหลัง

ในขณะเดียวกัน ซีอีโอของริปเปิล แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ได้ประกาศว่า บริษัทจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าทางริปเปิลกำลังเดินหน้าสู่ ‘จุดจบของคดีความ’ อย่างเป็นทางการ ด้านทนายความฝั่งสหรัฐฯ เฟรด ริสโพลี(Fred Rispoli) ตั้งข้อสังเกตว่า “การที่ริปเปิลประกาศถอนอุทธรณ์ในวันรุ่งขึ้นหลังคำตัดสินของผู้พิพากษาโทเรส อาจเป็นสัญญาณว่ามีการตกลงล่วงหน้าเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย”

แม้การฟ้องร้องนี้จะเข้าสู่บทสรุป แต่อนาคตของริปเปิลและสถานะของ XRP บนเวทีการเงินระดับโลกยังคงเป็นที่จับตามอง จากกระแส "ความคิดเห็น" หลักในอุตสาหกรรม ดูเหมือนว่าทฤษฎี ‘คดีจัดฉาก’ จะถูกปัดตกไป และแทนที่ด้วยการวิเคราะห์ถึงความตึงเครียดที่แท้จริงระหว่างแนวนโยบายกำกับดูแลกับการเปลี่ยนผ่านของตลาดคริปโตทั่วโลก