แผน *สำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ* ที่เคยเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ อาจกลายเป็นเพียงคำมั่นที่ไร้ผล หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งปีนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการใดที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยประกาศในที่ประชุม ‘Bitcoin 2024 Conference’ ที่เมืองแนชวิลล์ว่า สหรัฐฯ จะ ‘ถือครองบิตคอยน์ทั้งหมดที่มีอยู่หรือจะได้มาในอนาคต’ และจะ ‘ขุด สร้าง และจัดเก็บบิตคอยน์ทั้งหมดในประเทศ’
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้สนับสนุนบิตคอยน์อย่างตรงไปตรงมาเริ่มมีน้ำเสียงวิจารณ์ โดย *จัสติน เบคลอร์(Justin Bechler)* กล่าวว่านโยบายดังกล่าวเป็นเพียง ‘ภาพลวงตาโดยสมบูรณ์’ และชี้ว่า ทรัมป์มีประวัติที่ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาในอดีตได้หลายครั้ง ดังนั้น นโยบายนี้ก็อาจจะลงเอยในลักษณะเดียวกัน
เบคลอร์ตั้งข้อสังเกตว่า บิตคอยน์(BTC) มีคุณลักษณะ ‘กระจายอำนาจอย่างเข้มข้น’ ซึ่งขัดแย้งกับกลไกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และไม่อาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐได้โดยง่าย เขาเน้นว่า “บิตคอยน์ไม่สามารถถูกเซ็นเซอร์ได้, มีปริมาณที่จำกัด, และตั้งอยู่บนหลักของความโปร่งใสและอธิปไตยของผู้ถือ” ซึ่งสวนทางกับการครองอำนาจทางเศรษฐกิจผ่านเงินดอลลาร์ที่สหรัฐฯ ใช้มาตลอด
เขายังชี้ไปที่ความล้มเหลวของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการจัดการบิตคอยน์ในอดีต โดยอ้างเหตุการณ์ในปี 2023 เมื่อ *กรมสรรพากรของสหรัฐฯ(IRS)* ขายบิตคอยน์จำนวนกว่า 120,000 เหรียญในราคาต่ำกว่าครึ่งของมูลค่าตลาด ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียอาจสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท)
เบคลอร์ระบุว่า ผู้นำทางการเมืองที่พยายามผลักดันนโยบายสำรองบิตคอยน์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือชี้นำสิ่งที่ผิดจากความเป็นจริง ล้วนแต่เป็น ‘ผู้ฉวยโอกาสที่บิดเบือนความคาดหวังของประชาชน’ แม้ว่าทรัมป์จะพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหารที่สนับสนุนทรัพย์สินดิจิทัลหลายฉบับ แต่ ‘นโยบายสำรองบิตคอยน์’ ที่เคยเป็นจุดขายหลัก กลับค่อยๆ กลายเป็นแค่คำพูดลอยๆ
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวเตรียมเปิดเผย *รายงานการพัฒนาเชิงนโยบายด้านทรัพย์สินดิจิทัล* ฉบับใหม่ในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะให้แนวทางต่อไปเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีในภาพรวม อย่างไรก็ตาม *ความผิดหวังของตลาดและภาคอุตสาหกรรม* ต่อความไม่ต่อเนื่องของนโยบายภายใต้รัฐบาลทรัมป์ได้เริ่มส่งสัญญาณแล้ว โดยเฉพาะเมื่อแผนสำรองบิตคอยน์ที่เสนอ ย่อมมีนัยสำคัญระดับการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินและการปกครองของสหรัฐฯ จึงอาจไม่สามารถเป็นจริงได้ในเวลานี้
ความคิดเห็น 0