ริปเปิลดัน RLUSD แตะ 500 ล้านดอลลาร์ใน 7 เดือน จับมือ BNY Mellon เสริมความเชื่อมั่นตลาดคริปโต

อาร์แอลยูเอสดี(RLUSD) เหรียญสเตเบิลคอยน์ที่มีการหนุนค่าแบบ 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทริปเปิล กำลังเร่งเพิ่มความเชื่อมั่นและขยายขอบเขตตลาดด้วยการจับมือกับวอลล์สตรีต โดยริปเปิลได้ประกาศความร่วมมือกับธนาคารบีเอ็นวาย เมลลอน(BK) ซึ่งเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐ เพื่อให้ทำหน้าที่ดูแลเงินสำรองของ RLUSD ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำจุดยืนของริปเปิลในการเข้าไปเชื่อมโยงกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งขยายอิทธิพลของโครงการในระดับสถาบัน

อาร์แอลยูเอสดีมีมูลค่าตลาดแตะ 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,950 ล้านบาท) ภายใน 7 เดือนหลังเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 และได้รับการออกแบบให้มีความมั่นคงโดยถือสำรองเต็ม 100% เป็นเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยดำเนินการอยู่บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) และเอกซ์อาร์พีเลเชอร์(XRP Ledger) ซึ่งช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการใช้งานในระบบนิเวศของคริปโตที่หลากหลาย

เอมิลี พอร์ตนีย์ หัวหน้าฝ่ายบริการสินทรัพย์ทั่วโลกของบีเอ็นวาย เมลลอน กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับบทบาทเป็นผู้ดูแลหลักของ RLUSD และพร้อมสนับสนุนการจัดการและการแลกเปลี่ยนเงินทุนสำหรับเหรียญประเภทนี้อย่างราบรื่น” ความเชี่ยวชาญของบีเอ็นวาย เมลลอนในการดูแลสินทรัพย์ขององค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงานภาครัฐ จึงนับเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์อาร์แอลยูเอสดีให้เป็นมิตรกับภาคการเงินดั้งเดิมมากขึ้น

นอกจากการขยายพันธมิตรแล้ว ริปเปิลยังอยู่ระหว่างกระบวนการยื่นขอใบอนุญาตธนาคารระดับประเทศกับสำนักงานควบคุมการเงินสหรัฐ(OCC) โดยหากได้รับการอนุมัติ ก็จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลทั้งจาก NYDFS และ FDIC พร้อมมีโอกาสเข้าถึงบัญชีธนาคารกลางของเฟด ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์

ขณะเดียวกันบรรยากาศการสนับสนุนในสหรัฐกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางบวก โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* กำลังผลักดันให้กฎระเบียบคริปโตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สภาคองเกรสก็เร่งออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์ ส่งผลให้บริษัทระดับโลกอย่างแอมะซอน, วอลมาร์ท, แอปเปิล, อูเบอร์ และแอร์บีแอนด์บีกำลังพิจารณาการใช้งานเงินดิจิทัลดอลลาร์อย่างจริงจัง *ความคิดเห็น:* ท่ามกลางกระแสดังกล่าว พันธมิตรริปเปิล-บีเอ็นวาย เมลลอนจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจเปลี่ยนโฉมตลาด

นอกจากนี้ อาร์แอลยูเอสดียังได้รับการสนับสนุนในระดับนานาชาติ โดยธนาคารอามินา ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานกำกับดูแลตลาดการเงินสวิตเซอร์แลนด์(FINMA) ได้ให้บริการรับฝากและซื้อขาย RLUSD อย่างเป็นทางการ โดยอามินามีฐานลูกค้าเป็นองค์กรในยุโรป และเปิดให้มีการใช้งานบนทั้งมือถือและเดสก์ท็อป

ด้วยการสนับสนุนจากทั้งสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ผู้ดูแลสินทรัพย์ระดับโลก และหน่วยงานกำกับดูแล RLUSD กำลังเบนเป้าหมายไปสู่มูลค่าตลาด 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,900 ล้านบาท) โดยมีโอกาสในการเข้าร่วมโดยตรงกับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งทำให้ RLUSD กลายเป็นหนึ่งในสเตเบิลคอยน์ชั้นนำที่น่าจับตาในวงการคริปโตยุคต่อไป