Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) ครองตลาดโทเคนทรัพย์สินจริงกว่า 54% มูลค่ารวมพุ่งแตะ 283 พันล้านดอลลาร์

อีเธอเรียม(ETH) ครองตลาดโทเคนทรัพย์สินจริงกว่า 54% มูลค่ารวมพุ่งแตะ 283 พันล้านดอลลาร์ / Tokenpost

ตลาดการ *โทเคนทรัพย์สินจริง (Real-World Asset, RWA)* บนบล็อกเชนอีเธอเรียม(ETH) กำลังพุ่งเข้าใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีอีเธอเรียมเป็นศูนย์กลางของกระแสนี้ ล่าสุด บิตไวส์(Bitwaise) บริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลระบุว่า “*ถ้าเชื่อคำพูดของแลร์รี ฟิงก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบล็คร็อก ที่บอกว่าหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างสามารถถูกโทเคนได้ ก็ต้องเชื่อว่านี่คืออนาคตจริงๆ*” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในแนวโน้มการโทเคนทรัพย์ทั่วโลก

ตามข้อมูลล่าสุด มูลค่าทรัพย์สินจริงที่ถูกโทเคนไว้บนบล็อกเชนขณะนี้สูงถึง 25.46 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35.3 ล้านล้านวอน) และหากรวมกับ *สเตเบิลคอยน์* มูลค่ารวมทั้งระบบจะมากถึง 283 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 393.7 ล้านล้านวอน) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นี่ถือเป็นหลักฐานว่าทรัพย์สินจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมกำลังย้ายเข้าสู่โลกของบล็อกเชน

*อีเธอเรียม* กำลังโดดเด่นในฐานะเครือข่ายหลักของตลาดนี้ โดย *ทรัพย์สินจริงที่ถูกโทเคนกว่า 54% อยู่บนอีเธอเรียม* ขณะเดียวกัน *พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯกว่า 73% ถูกโทเคนและซื้อขายบนอีเธอเรียม* นอกจากนี้ *สเตเบิลคอยน์ถึง 54% ก็ถูกสร้างขึ้นในเครือข่ายนี้* ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น แบล็คร็อกยังดำเนินการกองทุนสภาพคล่องดิจิทัล ‘USD Institutional Digital Liquidity Fund (BUIDL)’ บนบล็อกเชนอีเธอเรียม ซึ่งเป็นกองทุน RWA ที่ใหญ่ที่สุดด้วยขนาดสินทรัพย์ถึง 2.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.2 ล้านล้านวอน)

ในส่วนของระบบอื่น ตัวอย่างเช่น ‘ZKsync Era’ ซึ่งเป็นโซลูชันเลเยอร์ 2 ของอีเธอเรียม มีส่วนแบ่งตลาดตามมาอยู่ที่ 18.6% ขณะที่แอปทอส(APT), โซลานา(SOL) และสเตลลา(Stellar) มีสัดส่วนการตลาดต่ำกว่าหลักสิบเปอร์เซ็นต์ โดยบัญชีวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม RWAwatchlist ประเมินว่า “*บล็อกเชนเหล่านี้จะเป็นผู้นำของตลาดมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต*”

ในด้านโครงสร้างตลาด RWA กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ *สินเชื่อเอกชน(Private Credit)* อยู่ที่มูลค่าราว 15 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20.8 ล้านล้านวอน) ตามมาด้วย *พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ* ราว 6.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.3 ล้านล้านวอน) และ *สินค้าโภคภัณฑ์* 1.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.5 ล้านล้านวอน) ส่วนการโทเคนหุ้นรายตัวนั้นยังเป็นช่วงเริ่มต้น โดยกินสัดส่วนเพียงแค่ 1.4% ของตลาดทั้งหมด

*ทอม ลี(Tom Lee)* นักวางกลยุทธ์การเงินชื่อดังกล่าวว่า “*ตลาดการเงินวอลล์สตรีทกำลังปรับโครงสร้างระบบทั้งหมดสู่เทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชน* และในมุมมองของเขา ‘อีเธอเรียม’ คือเครือข่ายที่ *ปลอดภัยที่สุด ไม่สะดุด และผ่านข้อกำหนดทางกฎหมาย*” ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีต่ออีเธอเรียมอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ปริมาณการถือครองอีเธอเรียมเชิงกลยุทธ์ (Strategic Holding) ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดนักวิเคราะห์ด้านอีเธอเรียมชื่อดัง *แอนโทนี ซาซาโน(Anthony Sassano)* รายงานว่า *จำนวนการถือครอง ETH เชิงกลยุทธ์ทะลุ 3 ล้านเหรียญ* โดยในจำนวนนี้ *มีบริษัทด้านทรัสต์เกิดใหม่ 3 ราย* ถือครองรวมกันแล้วกว่า 1.6 ล้าน ETH และยังคงซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากมุมมองที่ว่า *อีเธอเรียมสามารถเติบโตสู่สินทรัพย์ระดับ 100 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต*

ด้าน *เนท เจอราซี(Nate Geraci)* ผู้เชี่ยวชาญด้าน ETF เปิดเผยว่า *บริษัททรัสต์ ETH รวมถึงกองทุน ETF อีเธอเรียมแบบสปอต* ได้จัดซื้อETH คิดเป็นประมาณ *1.6% ของปริมาณ ETH ที่ออกใหม่หลังเดือนมิถุนายน* ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่าอีเธอเรียมกำลังกลายเป็นผู้นำตลาด RWA ทั้งในด้านเทคโนโลยี ระเบียบกฎหมาย และส่วนแบ่งตลาดอย่างแท้จริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1