อีเธอเรียม(ETH) พุ่งแตะระดับ 4,518 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.27 ล้านบาท) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น จากแรงหนุนของอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัว อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากตลาดอนุพันธ์กลับบ่งชี้ว่า การพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้ *อาจไม่มั่นคงนัก* ขณะที่เงินทุนจากสถาบันและภาคธุรกิจเริ่มไหลออกจากอีเธอเรียม ไปยังบล็อกเชนอิสระประเภทเลเยอร์ 1 อื่น ๆ ส่งผลให้บทบาทของอีเธอเรียมในระบบนิเวศดีไฟแนนซ์ (DeFi) ถูกตั้งคำถามมากขึ้น
ข้อมูลจาก CoinGlass ชี้ว่า ความต้องการ 'กลยุทธ์แบบ Long ที่ใช้เลเวอเรจ' บนตลาดฟิวเจอร์สของอีเธอเรียมนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนยังลังเลที่จะเชื่อมั่นในการขึ้นของราคาในระยะกลางถึงยาว แม้ว่าปัจจัยมาโครจะดูเป็นบวกก็ตาม *ความคิดเห็น* ตลาดอนุพันธ์ยังคงรักษาท่าทีระมัดระวัง แม้ราคาในตลาดจริงจะเร่งตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่ในภาคการเงินแบบดั้งเดิมและระดับโลก เริ่มหันมา *พัฒนาเครือข่ายเลเยอร์ 1 ของตัวเอง* แทนที่จะใช้โซลูชันเลเยอร์ 2 หรือ Blockchain ของอีเธอเรียมโดยตรง ประเด็นนี้ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยต่อความยืดหยุ่นและความครอบคลุมของอีเธอเรียมในระยะยาว กลยุทธ์นี้สะท้อนความพยายามผลักดันการขยายระบบให้ตรงความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กร ขณะเดียวกันก็รักษากลไกการกระจายอำนาจเอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญในวงการมองว่า แนวโน้มดังกล่าวน่าจะเป็น "สัญญาณเตือน" ต่อตำแหน่งผู้นำของอีเธอเรียมในโลกบล็อกเชน ความต้องการของผู้ใช้งานเชิงธุรกิจมีแนวโน้มแตกแยกมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า หากอีเธอเรียมต้องการรักษาความได้เปรียบ จะต้องเร่งผลักดันนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวางกลยุทธ์การขยายระบบที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ในขณะที่แรงเทขายเริ่มชะลอลงและราคาดีดกลับ ความเชื่อมั่นต่อ "ธรรมาภิบาลบนอีเธอเรียม" ยังคงไม่ได้รับการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ท่ามกลางความท้าทายที่เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง สถานะของอีเธอเรียมในฐานะแพลตฟอร์มหลักของดีไฟจึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินใหม่อย่างรอบด้าน
ความคิดเห็น 0