SEC ยุคใหม่เดินเกมใหญ่! สหรัฐฯ มุ่งสู่ศูนย์กลางคริปโตโลกภายใต้แผน Project Crypto

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) กำลังเดินหน้ารวบรวมทรัพยากรภายในเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดคริปโต โดยพอล แอ็ตคินส์(Paul Atkins) ประธานคนใหม่ของ SEC เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business เมื่อวันที่ 24 ว่าหน่วยงานต่างๆ ภายใต้ SEC กำลังร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้ *สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของโลก*

คำแถลงนี้เกิดขึ้นหลังการเปิดตัวของโครงการ Project Crypto ซึ่งเป็นแผนปฏิรูปโครงสร้างกฎระเบียบเพื่อให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยแอ็ตคินส์ยังกล่าวถึง ‘กฎหมายจีเนียส’ (GENIUS Act) ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร พร้อมชี้ว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเกี่ยวกับ ***สเตเบิลคอยน์*** ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ

เขาเสริมอีกว่า “ยังมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอีกหลายฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา และเราหวังว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้” ในขณะเดียวกัน เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการจากพรรครีพับลิกันของ SEC ระบุผ่าน Bloomberg ว่า “แม้จะไม่มีการออกกฎหมายฉบับใหม่ หน่วยงานก็ยังสามารถดำเนินมาตรการด้านกำกับดูแลในระดับที่มีนัยสำคัญได้ โดยใช้กรอบอำนาจที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน”

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากยุคของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีนโยบายด้านคริปโตที่ *เข้มงวดและไม่เป็นมิตร* โดยแอ็ตคินส์ยอมรับถึงปัญหาเดิมที่แม้แต่ที่ปรึกษาทางกฎหมายเองก็ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ และระบุว่า “ปัจจุบันเรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนนวัตกรรม บนพื้นฐานของความ *ชัดเจนและสม่ำเสมอ* ในการบังคับใช้กฎหมาย”

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เขาชี้ คือการจัดการเรื่อง *การดูแลทรัพย์สินดิจิทัล (custody)* แอ็ตคินส์เผยว่า SEC กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปรับปรุงกฎระเบียบเดิมที่ใช้มานานเกือบ 90 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง โดยความเคลื่อนไหวนี้จะมีผลโดยตรงต่อการสร้างระบบจัดเก็บทรัพย์สินที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนสถาบัน

มีการประเมินว่า ท่าทีใหม่ของ SEC ภายใต้การนำของแอ็ตคินส์นี้ *มีความเป็นมิตรต่อคริปโตมากกว่านโยบายในยุครัฐบาลไบเดน* และอาจสร้างความต่อเนื่องจากช่วงของทรัมป์ ซึ่งเคยแสดงจุดยืนสนับสนุนตลาดคริปโตอย่างชัดเจน *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ในวงการมองว่า SEC ยุคใหม่กำลังวางตำแหน่งตนเองให้เป็นผู้นำด้านกฎระเบียบที่มีวิสัยทัศน์ และเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ กลับมาขึ้นแท่น *ศูนย์กลางคริปโตของโลก* ได้อีกครั้ง