UAE เร่งผลักดันบล็อกเชนขึ้นแท่นเสาหลักเศรษฐกิจ คาดมีสัดส่วนสองหลักใน GDP ภายใน 5 ปี

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ตั้งเป้าดัน ‘อุตสาหกรรมบล็อกเชน’ ขึ้นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยหลายฝ่ายประเมินว่า ด้วยจุดแข็งด้านกฎหมาย การบริหาร และนโยบายมิตรต่อเงินดิจิทัล ทำให้มีโอกาสสูงที่ UAE จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลระดับโลก นอกเหนือไปจากบทบาทผู้นำในภูมิภาคตะวันออกกลาง

เชส เออร์เกน(Chase Ergen) สมาชิกคณะกรรมการของบริษัทลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ดีไฟ เทคโนโลยีส์(DeFi Technologies) ให้ความเห็นว่า “UAE สร้างชื่อเสียงที่ชัดเจนด้านความเป็นผู้นำ กฎหมายที่ทันสมัย และความเข้มแข็งของชุมชน” พร้อมชี้ว่า “แม้ปัจจุบันน้ำมันยังเป็นอุตสาหกรรมหลัก แต่อุตสาหกรรมบล็อกเชนจะกลายเป็นเสาหลักที่สองของเศรษฐกิจภายใน 5 ปี” พร้อมเสริมว่า ‘บล็อกเชน’ มีแนวโน้มจะมีสัดส่วนสองหลักใน GDP ของประเทศ

ไม่ใช่แค่แง่กฎหมายที่ยืดหยุ่น แต่ UAE ยังมี ‘จุดแข็ง’ อื่นๆ ที่หาได้ยากในระดับนานาชาติ ทั้งฐานะการคลังที่มั่นคง ปราศจากหนี้ ภาครัฐสามารถลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อัตราอาชญากรรมต่ำ และระบบภาษีที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ ทำให้บริษัทคริปโตจากอเมริกาเหนือและยุโรปเริ่มพิจารณาย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังดูไบหรืออาบูดาบีมากขึ้น

เออร์เกนกล่าวเพิ่มเติมว่า “UAE ได้กลายเป็นศูนย์กลางของคริปโตและเทคโนโลยีในภูมิภาคตะวันออกกลาง-แอฟริกา(MENA) อย่างชัดเจน” และ “ในภาวะที่การแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำด้านการเงินดิจิทัลระหว่างประเทศทวีความรุนแรงขึ้น ตำแหน่งของ UAE จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น”

ในระดับโลก แนวโน้ม ‘การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับประเทศ’ เองก็กำลังเข้าสู่เฟสใหม่ โดยเริ่มเด่นชัดขึ้นตั้งแต่ปี 2025 โดยมี ‘ทรัมป์’ เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผย ‘รายงานนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัล’ ที่วางแผนชัดถ้อยชัดคำว่า ‘จะผลักดันให้สหรัฐเป็นผู้นำโลกในด้านคริปโต’

ผลกระทบจากท่าทีใหม่ของสหรัฐนี้เริ่มส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ปากีสถาน ซึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 หนึ่งวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ตัดสินใจยกเลิกนโยบายเดิมที่ต่อต้านคริปโต พร้อมรับรองให้เป็น ‘สื่อกลางการชำระเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย’

ท่ามกลางกระแสการยอมรับคริปโตอย่างเป็นทางการจากหลายประเทศ UAE ก็เดินหน้าอย่างชัดเจนในการสร้างกรอบนโยบาย เชิงระบบ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่ออุตสาหกรรม จนมีแนวโน้มจะกลายเป็น ‘ศูนย์กลางของเศรษฐกิจบล็อกเชนโลก’ ในอนาคตอันใกล้