Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6% สู่ 112,000 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาท่าทีเฟดในแจ็กสันโฮล

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6% สู่ 112,000 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาท่าทีเฟดในแจ็กสันโฮล / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงมากกว่า 6% ในรอบสัปดาห์ โดยราคาล่าสุดแตะระดับ 112,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15.56 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเป็นการปรับฐานรุนแรงจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ราคาพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17.23 ล้านบาท) ความสนใจของตลาดในขณะนี้พุ่งไปยังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในการประชุม ‘แจ็กสันโฮล’

พาวเวลล์มีกำหนดขึ้นเวทีในวันนี้ (เวลาท้องถิ่น) โดยนักลงทุนต่างจับตามองว่าท่าทีของเฟดต่อดอกเบี้ยและนโยบายคุมเข้มทางการเงินจะเคลื่อนทิศทางใด ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตอย่างฉับพลัน ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากบิตคอยน์หลุดระดับแนวรับที่ 112,000 ดอลลาร์ ราคามีโอกาสถอยกลับเข้าสู่ระดับ ‘5 หลัก’ อีกครั้ง ซึ่งถือเป็น ‘จุดเสี่ยงเชิงจิตวิทยา’ สำหรับนักลงทุน

อัล트คอยน์ส่วนใหญ่เผชิญกับแรงขายหนักยิ่งขึ้น โดยราคาอีเธอเรียม(ETH) ลดลง 9% สู่ 4,220 ดอลลาร์ (ประมาณ 586,000 บาท) ขณะที่ริปเปิล(XRP) ร่วงถึง 10.4% ไปอยู่ที่ 2.79 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,883 บาท) โครงการอื่นๆ อย่างคาร์ดาโน่(ADA), ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid), และซุย(SUI) ต่างดิ่งลงด้วยตัวเลขสองหลัก สะท้อนแรงกดดันที่แผ่เป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม OKB กลับสวนกระแสด้วยการพุ่งขึ้นกว่า 130% ในสัปดาห์เดียว ทะลุระดับ 225 ดอลลาร์ (ราว 313,000 บาท) ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีเพียงไม่กี่เหรียญที่รอดพ้นจากภาวะขาลง หนึ่งในนั้นคือ ไบแนนซ์คอยน์(BNB) ที่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน

ในด้านข่าวสารสำคัญ มีหลายความเคลื่อนไหวที่สร้างแรงสะเทือนต่อวงการ ค่ายกระเป๋าเงินคริปโตชื่อดัง เมต้ามาสก์ ประกาศเปิดตัวเหรียญเสถียรของตนเอง ‘mUSD’ โดยร่วมมือกับสไตรป์ อีกทั้งไมโครสเตรทจีและเมตะแพลนเน็ตได้ทุ่มซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 430BTC และ 775BTC ตามลำดับ นอกจากนี้ ริปเปิลยังได้จับมือกับกลุ่ม SBI ของญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัวเหรียญเสถียร RLUSD สู่ตลาดญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ราคาของ XRP ไม่สามารถตอบสนองในเชิงบวกได้

ด้านประเด็นร้อน โลกออนไลน์จับตาความเคลื่อนไหวของ คานเย เวสต์ ที่เปิดตัวเหรียญมีม ‘YZY’ บนเครือข่ายโซลานา(SOL) พร้อมดันมูลค่ารวมถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ (กว่า 41.7 หมื่นล้านบาท) ก่อนราคาจะร่วงหนักถึง 80% และถูกมองว่าเข้าข่าย ‘rug pull’ หรือการหลอกลวง

ในขณะเดียวกัน พอล แอตกินส์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้กล่าวว่า “คริปโตส่วนใหญ่ไม่ใช่หลักทรัพย์” ซึ่งส่งสัญญาณสำคัญต่อมุมมองของหน่วยงานกำกับดูแล แม้จะยังไม่ชัดเจนแต่ก็ลดความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง

โดยรวม มูลค่าตลาดคริปโตอยู่ที่ประมาณ 3.87 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 5,379 ล้านล้านบาท) แม้ราคาหลายเหรียญจะปรับตัวลดลง แต่ ‘ส่วนแบ่งตลาด’ ของบิตคอยน์กลับเพิ่มขึ้นเป็น 57.5% แสดงถึงความแข็งแกร่งในท่ามกลางความผันผวน ทั้งนี้ ปริมาณซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงยังอยู่ที่ระดับ 121,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16.8 ล้านล้านบาท) สะท้อนถึง ‘สภาพคล่อง’ ที่ยังเหนียวแน่น

ตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้จึงกลายเป็นตัวอย่างของการเดินเข้าสู่ ‘รอบผันผวนขั้นสูง’ ท่ามกลางแรงกดดันทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมืองโลก และทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐ โดยเฉพาะการแถลงการณ์ที่กำลังจะมีขึ้นในแจ็กสันโฮลที่อาจนำพา ‘ทิศทางใหม่’ ให้กับตลาดในระยะสั้น ‘ความคิดเห็น’ มองว่านี่คือจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอีกครั้งของวงการคริปโต.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1