ผู้บริหารคอยน์เบสโต้ข่าวฟอกเงิน ยันบล็อกเชนโปร่งใสกว่าระบบธนาคารดั้งเดิม

พอล เกรวัล(Paul Grewal) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของคอยน์เบส(Coinbase) ออกโรงปกป้องวงการคริปโต หลังมีรายงานว่า *องค์กรอาชญากรรมจีนกำลังฟอกเงินผิดกฎหมายมูลค่ามหาศาลผ่านสถาบันการเงินดั้งเดิมในสหรัฐฯ* โดยเขาชี้ว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นโปร่งใสและสามารถติดตามธุรกรรมได้ ต่างจากระบบเงินสดที่ “*เป็นราชาแห่งอาชญากรรมตัวจริง*”

รายงานต้นเรื่องมาจาก *Wall Street Journal* เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าเครือข่ายฟอกเงินที่มีต้นทางจากจีน ฟอกเงินผิดกฎหมายสูงถึง *3.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 433 ล้านล้านวอน)* ผ่านระบบการเงินของสหรัฐฯ โดยเงินดังกล่าวเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาในเม็กซิโก ขณะที่ธนาคารหลายแห่งละเลยการตรวจสอบ จนถูกลงโทษด้วยค่าปรับจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ทีดีแบงก์(TD) ถูกปรับไปแล้วถึง *3 พันล้านดอลลาร์* โดยในจำนวนนั้น *500 ล้านดอลลาร์* ถูกระบุว่าเป็นเงินฟอก

เกรวัลไม่รอช้า แสดงความคิดเห็นผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ระบุว่า “*การสร้างความตื่นตระหนกเกี่ยวกับคริปโตอย่างไร้เหตุผล เป็นเพียงเครื่องมือเบี่ยงเบนประเด็นจากปัญหาแท้จริง*” พร้อมย้ำว่า บล็อกเชนเปิดเผยข้อมูลธุรกรรมต่อสาธารณะ ทำให้สามารถตรวจสอบและระบุตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ จึงอาจช่วยยับยั้งการฟอกเงินได้ดีกว่าระบบเดิม

เขายังวิจารณ์ว่า “ระบบการเงินดั้งเดิมที่มีโปรแกรมปฏิบัติตามกฎมานานหลายสิบปีนั้นกลับล้มเหลว” และเสนอว่าบล็อกเชนคือ “*ทางเลือกที่โปร่งใสเพื่อจัดการกับความเสี่ยงเชิงระบบที่เกิดซ้ำซาก*” โดยมองว่าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการติดตามธุรกรรมคริปโตนั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และช่วยลดปัญหาความเป็นนิรนามได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในช่วงเวลาที่ *การถกเถียงเรื่องกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐฯ* ทวีความเข้มข้น ความเห็นของเกรวัลช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับแนวคิดที่ว่า *สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเสริมจุดอ่อนของระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้* โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์แสดงจุดยืนเป็นมิตรกับคริปโตระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ก็มีแนวโน้มว่า นโยบายจากภาครัฐอาจเริ่มโน้มเอียงมายังฝั่งสนับสนุนคริปโตมากขึ้นในอนาคต