DonAlt เตือนตลาดคริปโตอาจสะเทือน หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะสตะแกฟเลชัน

นักเทรดคริปโตยอดนิยมของสหรัฐ ‘DonAlt’ แสดงมุมมองเชิงบวกต่อ *ตลาดคริปโตภาพรวม* แต่ย้ำว่าแนวโน้มขาขึ้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ‘ไม่มีแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจจากสหรัฐ’ เท่านั้น โดยเขาเน้นว่าเงื่อนไขจากระดับ *มหภาค* อาจกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดของทิศทางตลาด ซึ่งรวมถึงเหรียญชั้นนำอย่าง *ริปเปิล(XRP)* ที่อาจได้รับผลกระทบด้วย

DonAlt เป็นที่รู้จักจากความแม่นยำในการทำนายราคา *ริปเปิล(XRP)* เมื่อครั้งที่ราคาอยู่ต่ำกว่า 0.70 ดอลลาร์ เขาคาดแนวโน้มขาขึ้นและผลลัพธ์คือราคาพุ่งขึ้นกว่า 700% ความสำเร็จครั้งนั้นทำให้การวิเคราะห์ตลาดของเขาได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เขามองไปไกลกว่าราคาของเหรียญใดเหรียญหนึ่ง โดยกล่าวว่า “ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการขึ้นของตลาดนั้นมีอยู่แล้ว” แต่เตือนว่า หาก ‘เศรษฐกิจสหรัฐประสบปัญหาและไม่มีการแก้ไข’ ตลาดก็อาจกลับตัวอย่างรวดเร็ว

ช่วงเวลาที่เขาออกมากล่าวก็ถือว่าน่าสนใจ ไม่เพียงแต่ *ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)* ที่ประกาศก่อน *ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)* อย่างผิดปกติ แต่ยังรวมถึงรายงานการจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ในรอบล่าสุด ตลาดคาดว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นประมาณ 75,000 ตำแหน่ง แต่ข้อมูลจริงกลับมีไม่ถึง 22,000 ตำแหน่ง และสำหรับเดือนมิถุนายน ยังถูกปรับยอดลงเป็นติดลบอีกด้วย

สถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเผชิญกับ ‘*สตะแกฟเลชัน*’ หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่ราคาเงินเฟ้อกลับยังสูงอยู่ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จสำหรับแรงกดดันต่อ *ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท* อันอาจลากให้ ‘ตลาดหุ้นถูกประเมินค่าต่ำลง’ และ ‘บรรยากาศลงทุนในคริปโตตกต่ำ’ ตามมาได้

แม้ตลาดยังยึดถือความหวังแบบ ‘ข่าวร้ายคือข่าวดี’ จากความคิดที่ว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ธนาคารกลางสหรัฐอาจเปลี่ยนนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายขึ้น แต่ DonAlt เตือนว่า หากแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจเข้มข้นขึ้นจริง ความรู้สึกเชิงบวกนี้อาจกลับตาลปัตร ตัวเลขสะท้อนความกลัวในตลาดก็เริ่มปรากฏขึ้น อาทิ หุ้นกลุ่มเติบโตสูงในสหรัฐเริ่มปรับตัวลง โดยเฉพาะ *เอ็นวีเดีย(NVDA)* ที่ราคาหุ้นร่วงกว่า 10% นับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม และยังเห็นได้ว่าหุ้นขนาดเล็กเริ่มถูกเมินจากนักลงทุน

ท้ายที่สุดแล้ว คำเตือนของ DonAlt ไม่ได้เป็นเพียงการคาดการณ์ราคา แต่ถือเป็นการชี้ให้เห็น *ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง* ที่กำลังกำหนดทิศทางตลาดคริปโต เขาส่งสารถึงนักลงทุนว่า อย่ามุ่งแต่หากำไรจากการ ‘ดีดตัวระยะสั้น’ แต่อย่าละสายตาจาก ‘การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ’ ที่แท้จริงต่างหากที่กำลังเปลี่ยนเกมในระยะยาว