เอลซัลวาดอร์ซื้อบิตคอยน์(BTC)เพิ่ม 21 เหรียญ ฉลองครบรอบ 4 ปีการรับรองเป็นเงินถูกกฎหมาย

รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ประกาศซื้อ ‘บิตคอยน์(BTC)’ เพิ่มอีก 21 เหรียญ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 4 ปีของการประกาศให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินถูกกฎหมายเมื่อปี 2021 โดยตัวเลข 21 เหรียญนี้สื่อถึงขีดจำกัดของบิตคอยน์ซึ่งมีจำนวนรวมสูงสุดที่ 21 ล้านเหรียญ ค่าซื้อครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 97,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.34 ล้านบาท ณ เวลาทำธุรกรรม

นาอีบ บูเคเล(Nayib Bukele) ประธานาธิบดีของประเทศ ได้ประกาศเรื่องนี้ผ่านช่องทางสื่อสารทางการของตน พร้อมเปิดเผยว่าหลังการซื้อรอบนี้ ปริมาณบิตคอยน์ทั้งหมดที่รัฐบาลถือครองอยู่เพิ่มขึ้นเป็น 6,313 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 702 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 9,700 ล้านบาท ตามราคาตลาดปัจจุบัน การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่ารัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงมุ่งมั่นกับแนวทาง ‘เศรษฐกิจบิตคอยน์’ แม้จะเผชิญข้อจำกัดด้านการเงินจากต่างประเทศ

ในโอกาสเดียวกัน สำนักงาน 'บิตคอยน์ออฟฟิศ' ภายใต้รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ ได้เปิดเผยผลลัพธ์จากการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์และเครือข่ายไลท์นนิ่ง โดยโครงการสำคัญที่ได้รับการพูดถึง ได้แก่ CUBO+ ซึ่งเป็นโปรแกรมพัฒนาทักษะเฉพาะทาง และโครงการอบรมพร้อมมอบใบรับรองความรู้ด้านบิตคอยน์ให้กับข้าราชการมากกว่า 80,000 คนทั่วประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ผ่านกฎหมายธนาคารฉบับใหม่ที่เปิดทางให้สถาบันการเงินให้บริการแก่ลูกค้าที่ลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัล

แม้จะมีความเคลื่อนไหวเชิงบวก รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ก็ปรับนโยบายบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) วงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.94 หมื่นล้านบาท โดยมีเงื่อนไขให้ยุติการดำเนินงานของกระเป๋าสตางค์คริปโตที่ภาครัฐเปิดให้ประชาชนใช้ชื่อว่า ‘ชิโว(Chivo)’ และยกเลิกข้อผูกพันในการซื้อบิตคอยน์โดยตรง ซึ่งนำไปสู่การระงับการซื้อในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ขณะที่ IMF ได้เบิกจ่ายเงินกู้ก้อนแรก 120 ล้านดอลลาร์ตามข้อตกลงดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเอลซัลวาดอร์กลับมาใช้ยุทธศาสตร์การซื้อ “วันละ 1 BTC” อย่างไม่เป็นทางการ ประธานาธิบดีบูเคเลประกาศว่าแนวทางนี้จะ “ดำเนินต่อไป” พร้อมยืนยันจุดยืนในการผลักดันเศรษฐกิจแบบบิตคอยน์ผ่านการศึกษาและการออกกฎหมาย

การตัดสินใจซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 21 เหรียญครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึง *ความตั้งใจของเอลซัลวาดอร์ในการสร้างระบบการเงินบนพื้นฐานของบิตคอยน์แม้จะเผชิญข้อจำกัดระดับโลก* ถือเป็นรูปแบบทดลองที่ไม่ธรรมดาซึ่งรัฐบาลของประเทศหนึ่งเลือกใช้แทนที่จะเป็นธนาคารกลางหรือบริษัทเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนานาประเทศมากขึ้นในอนาคต