เปเป้(PEPE) มีโอกาสพุ่งต่อ 78% ทะลุแนวต้านสำคัญ นักวิเคราะห์คาดอาจพุ่งทะลุ 300%

โทเคนเปเป้(PEPE) กำลังดึงดูดความสนใจในตลาดคริปโต หลังนักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นราว *78%* จากระดับราคาปัจจุบันที่ราว 0.00001135 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.016 บาท โดยโทเคนดังกล่าวกำลังเข้าใกล้ระดับแนวต้านสำคัญ และมีสัญญาณเทคนิครองรับความเป็นไปได้ของการ ‘พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง’

จากกราฟเทคนิค เปเป้(PEPE) กำลังอยู่ในรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมสมมาตร’ ที่ค่อยๆ แคบลงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สัญญาณนี้เกิดจากจุดสูงสุดที่ลดลงและจุดต่ำสุดที่ยกตัวขึ้น สะท้อนภาวะ ‘อัดแน่นของราคา’ ที่พร้อมจะทะลุขึ้นหรือลง โดยในขณะนี้ราคากำลังปรับฐานบริเวณ 0.00001087 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.015 บาท) ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ

อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์ด้านออนเชน ให้ความเห็นว่า เปเป้ได้เข้าสู่โซนที่มี *โอกาสพุ่งขึ้น 78%* โดยเขาอธิบายว่าหากเปเป้สามารถทะลุเส้นแนวโน้มด้านบนได้ เป้าราคาที่เป็นไปได้จะอยู่ในช่วง 0.000018 ถึง 0.000020 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.025–0.028 บาท) แต่หากราคาหลุดลง แนวรับที่น่าจับตาอยู่ที่ 0.0000063 ดอลลาร์ หรือราว 0.009 บาท

อีกมุมที่น่าสนใจคือ โครงสร้างราคาปัจจุบันของเปเป้กำลัง ‘เลียนแบบรูปแบบการพุ่งขึ้น’ แบบเดียวกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า *260%* ตามการวิเคราะห์ของลาคริปโตไลคัส(CryptoLycus) โดยเขาคาดว่ารูปแบบลิ่มนี้ หากสามารถทะลุแนวต้านสำเร็จ ราคามีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่า *300%* และแตะระดับ 0.00002837 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.039 บาท

ในด้านของข้อมูลการเทรดจากเว็บไซต์ด้านอนุพันธ์อย่างคอยน์กลาส(CoinGlass) ยังชี้ว่ามี *โพสิชันขายชอร์ตจำนวนมาก* กระจุกอยู่ในช่วงราคาประมาณ 0.0000119–0.0000128 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.017–0.018 บาท) ซึ่งหากราคาทะลุบริเวณนี้ จะเกิดภาวะ ‘ชอร์ตสควีซ’ หรือการบีบบังคับให้ปิดโพสิชัน โดยคำสั่งซื้อจะไหลเข้าซื้อเทียบราคาเพิ่มขึ้นตามมา

ในทางกลับกัน ความเสี่ยงของการถูกล้างพอร์ตฝั่งซื้อกลับกระจุกอยู่ในระดับราคาต่ำกว่า จึง *ลดแรงขายหากราคาปรับลง* ความไม่สมมาตรเชิงโครงสร้างในลักษณะนี้ จึงสนับสนุนแนวโน้มว่าราคาอาจมีแรงเทไปทางการฟื้นตัวมากกว่า

ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายรายวันก็ยังสูงถึงประมาณ 958 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 13,310 ล้านบาท บ่งชี้ถึงความสนใจของนักลงทุนที่ยังหลั่งไหลเข้ามาในโทเคนนี้ อย่างไรก็ดี *ผู้เชี่ยวชาญเตือนนักลงทุนให้ระวังความผันผวนในระยะสั้น* แม้แนวโน้มจะมีทิศทางเชิงบวกก็ตาม