ตลาดจับตา! อีเธอเรียม(ETH) ลุ้นทะลุ 3,000 ดอลลาร์ หลังไบบิต(Bybit) ซื้อ OTC มูลค่า 295 ล้านดอลลาร์

หลังจากเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ของ ‘ไบบิต(Bybit)’ ตลาดกำลังจับตาดูว่า ‘อีเธอเรียม(ETH)’ จะสามารถทะลุแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ โดยมีการคาดการณ์ว่า การเข้าซื้ออีเธอเรียมผ่านตลาดซื้อขายนอกกระดาน (OTC) มูลค่า 295 ล้านดอลลาร์ของไบบิต อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวของราคา

เหตุการณ์แฮ็กเมื่อวันที่ 21 ส่งผลให้มีการสูญเสียคริปโตรวมมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการแฮ็กทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต ทันทีหลังเหตุการณ์ ราคาของอีเธอเรียมร่วงลงในระยะสั้น แต่กลับดีดตัวขึ้น 5.38% ในเวลาต่อมา นักวิเคราะห์เชื่อว่าการฟื้นตัวส่วนหนึ่งมาจากการซื้ออีเธอเรียมในปริมาณมากของไบบิต

นอกจากนี้ กลุ่ม ‘ลาซารัส(Lazarus Group)’ ซึ่งเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ ถูกระบุว่าอาจอยู่เบื้องหลังการโจมตี หากลาซารัสไม่นำสินทรัพย์ที่ขโมยมาออกขายในทันที แรงกดดันด้านอุปทานในตลาดก็อาจลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาของอีเธอเรียม ตามข้อมูลจาก ‘อาคห์ม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence)’ กระเป๋าเงินของลาซารัสในปัจจุบันถือครองคริปโตมูลค่า 83 ล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้ 3.68 ล้านดอลลาร์เป็นอีเธอเรียม

ในแง่ของแนวโน้มราคา นักวิเคราะห์คริปโทหลายรายเชื่อว่าแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์จะเป็นจุดสำคัญ ‘บูการ์ อูชี ซาเด’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ ‘บิทเก็ต(Bitget)’ ระบุว่า “เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวที่ชัดเจน อีเธอเรียมต้องสามารถทะลุช่วงแนวต้าน 2,700-3,000 ดอลลาร์ได้อย่างเด็ดขาด”

‘มาร์ซิน คาซิเมียร์ชัค’ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เรดสโตน(Redstone)’ มองว่า “แม้ตลาดจะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาว พื้นฐานของอีเธอเรียมยังคงแข็งแกร่ง และหากมีการเข้าซื้อจากนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง ศักยภาพในการเติบโตระยะยาวก็จะเพิ่มขึ้น”

ข้อมูลจาก ‘คริปโตควอนท์(CryptoQuant)’ ระบุว่า ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปริมาณอีเธอเรียมที่ถือครองในกระดานเทรดแบบรวมศูนย์อยู่ที่ 18.95 ล้านเหรียญ ต่ำสุดนับตั้งแต่กรกฎาคม 2016 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการนำเหรียญออกจากกระดานเพื่อถือครองระยะยาว

อย่างไรก็ตาม มีแนวต้านที่แข็งแกร่งในช่วง 2,900-3,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนของราคาในระยะสั้น ข้อมูลจาก ‘คอยน์กลาส(CoinGlass)’ คาดการณ์ว่า หากอีเธอเรียมทะลุ 3,000 ดอลลาร์ อาจมีการปิดสถานะชอร์ต (Short Position) คิดเป็นมูลค่ารวม 623 ล้านดอลลาร์

ตลาดกำลังจับตาดูว่าราคาอีเธอเรียมจะสามารถทะลุ 3,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ พร้อมกับเฝ้าระวังผลกระทบเพิ่มเติมจากเหตุการณ์แฮ็กของไบบิต ที่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อภาคคริปโตโดยรวม