สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อควบคุม ‘สเตเบิลคอยน์’ และปรับโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจเปิดโอกาสใหม่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโต
เมื่อวันที่ 26 ตามเวลาท้องถิ่น ไบรอัน สไตล์(Bryan Steil) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Chainlink Labs โดยระบุว่า “หากสหรัฐฯ ต้องการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลก จำเป็นต้องยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชน, เว็บ3 และคริปโตเคอร์เรนซี อย่างจริงจัง” ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เทคโนโลยีการเงิน และปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้คณะกรรมาธิการบริการทางการเงินสภาผู้แทนราษฎร
ร่างกฎหมายสำคัญที่เขากล่าวถึง ได้แก่ ‘กฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์’ และ ‘Financial Innovation and Technology for the 21st Century Act (FIT21)’ ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุง FIT21 มีเป้าหมายเพื่อกำหนดบทบาทของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐฯ(CFTC) อย่างชัดเจน รวมถึงสร้างกรอบการกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นระบบมากขึ้น
สไตล์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดน และแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) อดีตประธาน SEC ที่จำกัดอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ตลาดได้รับผลกระทบหนัก เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในขณะนี้ จะช่วยให้สหรัฐฯ กลับมามีบทบาทนำในตลาดอีกครั้ง นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อบล็อกเชน อาจนำไปสู่การสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น
อีกหนึ่งบุคคลสำคัญในทิศทางใหม่นี้คือ เดวิด แซคส์(David Sacks) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้กำหนดนโยบายด้านคริปโตของรัฐบาลทรัมป์ โดยให้ความสำคัญกับการกำหนดข้อบังคับด้านสเตเบิลคอยน์ เขาระบุว่าสเตเบิลคอยน์ที่ออกโดยสถาบันในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสถานะเงินดอลลาร์ในตลาดโลก ปัจจุบันสเตเบิลคอยน์ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนโดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการชำระเงินข้ามพรมแดนอย่างแพร่หลาย
สไตล์ยังกล่าวว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่ได้จำกัดแค่ในภาคการเงิน แต่ยังสามารถนำไปใช้กับการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ การยืนยันตัวตน และการโอนเงินระหว่างประเทศได้อีกด้วย เขาเชื่อว่าหากสหรัฐฯ วางกรอบกฎหมายที่เหมาะสม อุตสาหกรรมคริปโตจะสามารถเติบโตภายใต้กฎระเบียบที่ชัดเจน และช่วยรักษาอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภาคการเงินโลก
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่ากฎหมายเหล่านี้อาจเห็นความคืบหน้าภายในปี 2024 ซึ่งหากสหรัฐฯ สามารถกำหนดกฎระเบียบที่แน่นอนได้ จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเปิดโอกาสให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดคริปโตมากขึ้น
ความคิดเห็น 0