ตลาดกำลังจับตามอง ‘ริปเปิล(XRP)’ ว่าจะสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นต่อไป หรือกำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐาน โดยความสนใจของนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากหลัง ‘ทรัมป์’ ส่งสัญญาณว่า XRP อาจถูกบรรจุเป็นหนึ่งในทรัพย์สินสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 24 มีรายงานจาก CryptoPotato ว่า ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้ง ‘กองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ’ ซึ่งนอกจากจะรวบรวมบิตคอยน์(BTC) แล้ว ยังครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของให้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนดังกล่าว
เดวิด แซกส์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายปัญญาประดิษฐ์(AI) และคริปโตของทำเนียบขาว อธิบายว่า ทรัพย์สินดิจิทัลที่รัฐบาลได้รับจากการบังคับใช้กฎหมายจะถูกจัดเก็บในกองทุนนี้ และยังไม่มีแผนจะซื้อเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ตลาดคริปโตร่วงลงทันที โดยทั้งบิตคอยน์ อีเธอเรียม(ETH) และเหรียญทางเลือกอื่น ๆ รวมถึง XRP และคาร์ดาโน(ADA) ต่างเผชิญกับแรงขายอย่างหนัก
นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่า XRP อยู่ในช่วงการปรับฐาน หลังจากเพิ่มขึ้นกว่า 300% ในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่บางคนมองว่า ความเคลื่อนไหวของทรัมป์เป็นเพียงปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นและไม่ได้ส่งผลต่อแนวโน้มในระยะยาว
อีกปัจจัยสำคัญที่อาจมีผลต่อราคา XRP คือ คดีความระหว่าง ‘สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC)’ กับ ‘ริปเปิลแล็บส์’ ซึ่งแม้ที่ผ่านมา ริปเปิลแล็บส์จะอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ แต่หากข้อพิพาทถูกยุติ นักลงทุนคาดว่า XRP อาจมีแรงหนุนให้ปรับตัวขึ้นอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสัญญาณว่า ‘กระทรวงการคลังสหรัฐฯ’ อาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมคริปโต โดยสก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวในที่ประชุมทำเนียบขาวว่า "ยุคของการกำกับดูแลที่กดดันคริปโตสิ้นสุดลงแล้ว" ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ XRP และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เติบโตได้มากขึ้น
นอกจากนี้ การที่ SEC ตัดสินใจถอนมาตรการที่เคยบังคับใช้กับบริษัทคริปโตบางแห่ง ยังเป็นสัญญาณบวก หากริปเปิลแล็บส์ได้รับข้อสรุปในลักษณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เชื่อว่า XRP อาจกลับมาเป็นหนึ่งในเหรียญที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในตลาดอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0