บิตคอยน์(BTC) แสดงความเปราะบางต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อีกครั้ง โดยมีความผันผวนอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) ราคาเริ่มร่วงลงทันทีหลังจากสื่อสหรัฐรายงานว่า สหรัฐเตรียมออกมาตรการการค้าฉบับใหม่ที่พุ่งเป้าไปยังสหภาพยุโรป ส่งผลให้ความเสี่ยงในสินทรัพย์ทั่วทั้งตลาดลดลง และ ‘บิตคอยน์’ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ราคา ‘บิตคอยน์’ ดิ่งลงเกือบ 4% ในช่วงสั้นๆ โดยมีแนวต้านปรากฏขึ้นที่ระดับ 110,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาในตลาด ส่งผลให้ราคาฟื้นตัวบางส่วน และขณะนี้มีการฟื้นขึ้นอย่างเล็กน้อย ความคิดเห็นในตลาดชี้ว่า ระดับราคานี้กลายเป็นภารกิจสำคัญระยะสั้นที่จะตัดสินว่าตลาดจะสามารถฟื้นโมเมนตัมการซื้อกลับมาได้หรือไม่
นักเทรดส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า หาก ‘บิตคอยน์’ ต้องการกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น จำเป็นต้องรักษาระดับราคาที่สูงขึ้นให้ได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะเส้นแนวรับแถวระดับ 105,000 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนระดับนี้ได้ อาจเกิดการเทขายต่อเนื่องและการปิดสถานะ ‘ลอง’ จำนวนมาก
เหตุการณ์ความผันผวนครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นระหว่าง ‘บิตคอยน์’ กับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น เช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ โดยถือเป็นผลพวงจากนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เข้มข้นมากขึ้นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกำลังกลับมาเป็นปัจจัยกดดันต่อ ‘ตลาดคริปโต’
ในขณะเดียวกัน ตลาดกำลังติดตามท่าทีของรัฐบาลทรัมป์อย่างใกล้ชิด โดยจับตามองคำพูดและนโยบายที่จะมีการเปิดเผยในการประชุมสุดยอด G7 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลมีแนวโน้มตอบสนองอย่างรุนแรงต่อ ‘ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก’ จึงมีความเป็นไปได้ที่คำพูดของผู้นำประเทศในครั้งนี้จะส่งแรงสะเทือนต่อราคา ‘บิตคอยน์’ อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0