นักลงทุนตัวใหญ่ในวงการคริปโตอย่าง เจมส์ วิน ทำให้พอร์ตโฟลิโ่ของเขาหายไปถึง *87 ล้านดอลลาร์* ภายในเวลาเพียง 5 วัน หลังจากการเข้าเทรดด้วยเลเวอเรจขนาดใหญ่ในตลาดบิตคอยน์(BTC)
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา วินได้เข้าสู่สถานะ Long ในบิตคอยน์มูลค่ากว่า *390 ล้านดอลลาร์* โดยตั้งราคาถูกชำระบัญชีไว้ที่ *96,600 ดอลลาร์* โดยใช้เงินค้ำประกันเกือบ *10 ล้านดอลลาร์* หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้เพิ่มสถานะเป็น *1,250 ล้านดอลลาร์* ด้วยเลเวอเรจถึง *40 เท่า*
ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นสูงกว่า *110,000 ดอลลาร์* ทำให้กำไรที่ยังไม่รับรู้ของวินพุ่งไปถึง *87 ล้านดอลลาร์* แต่อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้ากับสหภาพยุโรป(EU) สูงถึง 50% กลับกลายเป็นแรงกดดันให้ตลาดคริปโตพลิกผันลง
จากความผันผวนนี้ วินเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยหันมาเปิดสถานะ Short ขนาด *1,038 BTC* ที่ราคา *107,711 ดอลลาร์* พร้อมตั้งระดับถูกชำระบัญชีไว้ที่ *149,100 ดอลลาร์* สุดท้ายเขาจบตำแหน่งทั้งหมดด้วยกำไร *25 ล้านดอลลาร์*
เรื่องราวของวินทำให้เกิดกระแสพูดถึงอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์ม X (อดีตทวิตเตอร์) ผู้ใช้งานบางรายยกย่องเขาว่าเป็น “ตำนาน” ขณะที่บางกลุ่มเขียนข้อความแสดงความหวังให้เขาขาดทุนหนัก วินตอบโต้เสียงวิจารณ์เหล่านี้อย่างหนักแน่น โดยกล่าวว่า “คอยดูตอนฉันฟาดกำไรหลายร้อยล้านดอลลาร์ก็แล้วกัน”
ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Lookonchain เปิดเผยว่า มีเทรดเดอร์อีกหนึ่งรายที่เปิดตำแหน่ง ‘ตรงข้าม’ กับวิน และทำกำไรได้ถึง *5.6 ล้านดอลลาร์* ภายในเวลาเพียง 3 วัน *ความคิดเห็น:* การเคลื่อนไหวของบรรดา ‘วาฬ’ ยังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนรายย่อยอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาใช้เลเวอเรจระดับสูงซึ่งทั้งสร้างกำไรได้มหาศาลและเสี่ยงต่อการขาดทุนขั้นรุนแรงในพริบตา
ความคิดเห็น 0