สำนักงานการเงินของสิงคโปร์ (MAS) ประกาศบังคับให้ *บริษัทคริปโตทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์* ต้องได้รับใบอนุญาตภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยไม่เว้นแม้แต่บริษัทที่ให้บริการเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นมาตรการควบคุมที่เข้มงวดและครอบคลุมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ตามกฎหมายตลาดบริการการเงิน (FSM Act) มาตรา 137 บริษัทที่ให้บริการโทเคนดิจิทัล (DTSP) ทุกแห่งจะต้องลงทะเบียนเพื่อขอใบอนุญาต ไม่มีการผ่อนผันแม้แต่รายเดียว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการอิสระ หรือผู้ที่ไม่ได้ให้บริการลูกค้าในประเทศ
เพื่อให้ได้รับใบอนุญาต บริษัทต้องถือครองเงินทุนอย่างน้อย 250,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 6.7 ล้านบาท) พร้อมทั้งผ่านขั้นตอนตรวจสอบลูกค้าแบบใหม่ และปฏิบัติตาม *กฎการเดินทางของ FATF* เพื่อป้องกันการฟอกเงิน นอกจากนี้ยังต้องมีมาตรการเทคโนโลยีที่ปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
MAS ระบุว่า ความเสี่ยงเรื่องการฟอกเงินและแหล่งทุนสนับสนุนการก่อการร้ายในวงการคริปโตยังอยู่ในระดับสูง จึงได้ปฏิเสธคำขอผ่อนปรนจากบริษัทหลายแห่งในปีที่แล้ว ทั้งในเรื่องโต๊ะเทรดส่วนตัว การซื้อขายนอกตลาด และบริษัทที่มีโครงสร้างโครงข่ายในต่างประเทศ
จนถึงปัจจุบัน มีบริษัท 33 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตเป็นสถาบันการชำระเงินหลักจาก MAS ซึ่งรวมถึง *คอยน์เบส, เซอร์เคิล, OKX, อัพบิท และ DBS Vickers* โดยมี *คาเวอร์แลนด์ SG* ได้รับ ‘การอนุมัติตามหลักการ’ และอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบขั้นสุดท้าย
การดำเนินการครั้งนี้ของสิงคโปร์ สอดคล้องกับกระแสการคุมเข้มภาคคริปโตทั่วโลก ตัวอย่างล่าสุดคือ หน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของออสเตรเลีย (AUSTRAC) ได้ *สั่งปรับ CoinTree* แพลตฟอร์มในเมลเบิร์น เป็นเงิน 75,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.04 ล้านบาท) เนื่องจากรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยล่าช้า
*ความคิดเห็น:* กฎใหม่ของ MAS อาจทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางคริปโตที่ ‘ปลอดภัย’ ที่สุดแห่งหนึ่ง หากบริษัทสามารถผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดเหล่านี้ได้ การออกใบอนุญาตแบบไม่มีข้อยกเว้นเช่นนี้ อาจกำหนดมาตรฐานให้นานาชาติเดินตามในอนาคต
ความคิดเห็น 0